บทที่ 4
ผลการวิเคราะห์ข้อมูล
การวิจัยครั้งนี้ ได้วิเคราะห์ข้อมูลหาประสิทธิภาพบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน วิชา การจัดการข้อมูลเบื้องต้น เรื่องการสร้างฟอร์มโดยใช้โปรแกรมไมโครซอฟต์แอกเซส มีผลการวิจัยดังนี้
1. ผลการวิเคราะห์คุณภาพของแบบทดสอบ
2. ผลการวิเคราะห์คุณภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
3. ผลการวิเคราะห์ประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนและผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ของคะแนนก่อนเรียนและคะแนนหลังเรียน
ผลการวิเคราะห์คุณภาพของแบบทดสอบ
1. ผลการหาค่าความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา (IOC)
นำแบบทดสอบทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติไปให้ผู้เชี่ยวชาญการวัดประเมินผลเป็นผู้ประเมินค่าความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา (IOC) ของข้อสอบแต่ละข้อกับวัตถุประสงค์ของข้อสอบที่มีค่าดัชนีความสอดคล้องเฉลี่ย 0.5 ขึ้นไป ผลการหาค่าความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาได้ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 1.00 ทั้งสองแบบทดสอบ ภาคทฤษฎีมีจำนวนข้อสอบทั้งหมด 20 ข้อ ภาคปฏิบัติแบ่งออกเป็น 3 หน่วยการฝึกปฏิบัติเป็นข้อสอบที่สามารถนำไปพัฒนาและตรวจสอบในขั้นต่อไปได้ ซึ่งดูรายละเอียดในภาคผนวก ค.
2. ผลการหาค่าระดับความยากง่าย (P)
นำผลสอบที่ได้จากการทดสอบนักเรียนที่ผ่านการเรียนรายวิชาการจัดการข้อมูลเบื้องต้น รหัสวิชา ง30203 มาแล้วจำนวน 20 คน มาวิเคราะห์เพื่อหาค่าความยากง่ายของข้อสอบรายข้อ ข้อสอบที่มีค่าความยากง่าย(P) อยู่ระหว่าง 0.25-0.75 เป็นข้อที่นำมาใช้ได้ ซึ่งได้แบบทดสอบที่ตรงตามเกณฑ์จำนวน 20 ข้อ ดังรายละเอียดภาคผนวก ข.
3. ผลการหาค่าอำนาจจำแนกของแบบทดสอบ
นำผลสอบที่ได้จากการทดสอบนักเรียนที่ผ่านการเรียนรายวิชาการจัดการข้อมูลเบื้องต้น รหัสวิชา ง30203 มาแล้วจำนวน 20 คน มาวิเคราะห์เพื่อหาค่าอำนาจจำแนกของข้อสอบรายข้อ โดยทำการเลือกข้อสอบที่มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.2-0.3 เป็นข้อที่นำมาใช้ได้ ซึ่งได้แบบทดสอบที่ตรงตามเกณฑ์จำนวน 20 ข้อ ดังรายละเอียดภาคผนวก ข.
4. ผลการหาค่าความเชื่อมั่น(Reliability)
การคำนวณหาค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบใช้วิธีการหาความเชื่อมั่นโดยใช้สูตร KR-20 ของ Kuder Richardson ผลการคำนวณหาค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบภาคทฤษฎีเท่ากับ 0.86 และ ผลการคำนวณหาค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบภาคปฏิบัติเท่ากับ 0.83 ดังรายละเอียดภาคผนวก ข. แสดงว่าแบบทดสอบทั้งสองมีความเชื่อมั่นสามารถนำไปใช้ทดสอบเพื่อวัดผลได้
ผลการวิเคราะห์คุณภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
การวิเคราะห์คุณภาพบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน โดยผู้ทรงคุณวุฒิเป็นผู้ประเมิน แบ่งออกเป็น 2 ด้านคือ คุณภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนด้านเทคนิคการผลิตสื่อ แสดงรายละเอียดดังตารางที่ 3 และ คุณภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนด้านเนื้อหา แสดงรายละเอียดดังตารางที่ 4
ตารางที่ 3 แสดงผลการวิเคราะห์คุณภาพบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน ด้านเทคนิคการผลิตสื่อ
รายการ |
x̅ |
S.D. |
ความหมาย |
1. การจัดบทเรียน 1.1 การนำเสนอชื่อเรื่องหลักของบทเรียน 1.2 การนำเสนอชื่อเรื่องย่อยของบทเรียน 1.3 ความยากง่ายของการควบคุมบทเรียน เช่น การใช้เมาส์ การใช้แป้นพิมพ์ การหน่วงเวลา 1.4 ความสะดวกและความคล่องตัวของการใช้บทเรียน 1.5 การออกแบบหน้าจอ โดยภาพรวม 1.6 วิธีการโต้ตอบบทเรียน โดยภาพรวม |
,
4.33 4.00 4.00 4.33 4.67 4.00 |
,
0.58 0.00 1.00 0.58 0.58 0.00 |
,
ดี ดี ดี ดี ดีมาก ดี |
รวม |
4.22 |
0.46 |
ดี |
2. ความเหมาะสมของตัวอักษรและสี 2.1 รูปแบบตัวอักษรที่ใช้ในการนำเสนอ 2.2 ขนาดของตัวอักษรที่ใช้ 2.3 สีของตัวอักษร โดยภาพรวม 2.4 สีของพื้นหลัง โดยภาพรวม 2.5 สีของภาพและกราฟิก โดยภาพรวม |
.
5.00 4.67 4.67 4.67 4.67 |
.
0.00 0.58 0.58 0.58 0.58 |
.
ดีมาก ดีมาก ดีมาก ดีมาก ดีมาก |
รวม |
4.73 | 0.46 | ดีมาก |
3. แบบฝึกหัด
3.1 ความสะดวกและคล่องตัวในการใช้ แบบฝึกหัด ภาคทฤษฏี…………………………………. 3.2 ความสะดวกและคล่องตัวในการใช้ แบบฝึกหัด ภาคปฏิบัติ…………………………………. 3.3 สิ่งอำนวยความสะดวกในการทำแบบฝึกหัด |
.
4.33 4.67 4.67 |
.
0.58 0.58 0.58 |
.
ดี ดีมาก ดีมาก |
รวม |
4.56 | 0.58 | ดีมาก |
4. แบบทดสอบ
4.1 วิธีการโต้ตอบแบบทดสอบ เช่น การใช้ แป้นพิมพ์ การใช้เมาส์คลิก การเลื่อนเมาส์ 4.2 วิธีการรายงานผลคะแนนแต่ละข้อของแบบทดสอบ 4.3 วิธีการสรุปผลคะแนนรวมท้ายแบบทดสอบ |
.
4.33 4.67 4.67 |
.
0.58 0.58 0.58 |
.
ดี ดีมาก ดีมาก |
รวม | 4.56 | 0.58 | ดีมาก |
รวมทั้งฉบับ |
4.52 |
0.52 |
ดีมาก |
จากตารางที่ 3 ผลการวิเคราะห์คุณภาพบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน ด้านเทคนิคการ ผลิตสื่อ พบว่าภาพรวมมีคุณภาพอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ค่าเฉลี่ยรวมทั้งฉบับเท่ากับ 4.52 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานรวมทั้งฉบับเท่ากับ 0.52 เมื่อพิจารณาแยกออกเป็นแต่ละด้านพบว่า ด้านที่ 1 การจัดบทเรียน มีคุณภาพอยู่ในระดับดี มีค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ 4.22 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.46 และรายการย่อยพบว่า รายการย่อยที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดเท่ากับ 4.67 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.58 คุณภาพอยู่ในเกณฑ์ดีมาก คือ 1.5) การออกแบบหน้าจอ โดยภาพรวม รายการย่อยที่มีค่าเฉลี่ยรองลงมาเท่ากับ 4.33 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.58 คุณภาพอยู่ในเกณฑ์ดี มี 2 รายการย่อยคือ 1.1) การนำเสนอชื่อเรื่องหลักของบทเรียน และ 1.4) ความสะดวกและความคล่องตัวของการใช้บทเรียน ส่วนรายการย่อยที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.00 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.00 และ 1.00 คุณภาพอยู่ในเกณฑ์ดี มี 3 รายการย่อย คือ 1.2) การนำเสนอชื่อเรื่องย่อยของบทเรียน 1.3) ความยากง่ายของการควบคุมบทเรียน เช่นการใช้เมาส์ การใช้แป้นพิมพ์ การหน่วงเวลา และ 1.6) วิธีโต้ตอบบทเรียน โดยภาพรวม
ด้านที่ 2 ความเหมาะสมของตัวอักษรและสี มีคุณภาพอยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ 4.73 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานรวมเท่ากับ 0.46 และรายละเอียดย่อยพบว่า รายการที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดเท่ากับ 5.00 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.00 คุณภาพอยู่ในระดับดีมาก มี 1 รายการ คือ 2.1) รูปแบบตัวอักษรที่ใช้ในการนำเสนอ รายการย่อยที่มีค่าเฉลี่ยรองลงมาเท่ากับ 4.67 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.58 คุณภาพอยู่ในระดับดีมาก มี 4 รายการย่อย คือ 2.2) ขนาดของตัวอักษรที่ใช้ 2.3) สีของตัวอักษร โดยภาพรวม 2.4) สีของพื้นหลัง โดยภาพรวม 2.5) สีของภาพและกราฟิก โดยภาพรวม
ด้านที่ 3 แบบฝึกหัด มีคุณภาพอยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ 4.56 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.58 และรายการย่อยพบว่า รายการที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุดเท่ากับ 4.67 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.58 คุณภาพอยู่ระดับดีมาก มี 2 รายการย่อย คือ 3.2) ความสะดวกและความคล่องตัวในการใช้แบบฝึกหัดภาคปฏิบัติ และ 3.3) สิ่งอำนวยความสะดวกในการทำแบบฝึกหัด รายการย่อยที่มีค่าเฉลี่ยรองลงมาเท่ากับ 4.33 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.58 คุณภาพอยู่ในระดับดี มี 1 รายการคือ 3.1) ความสะดวกและคล่องตัวในการใช้แบบฝึกหัด ภาคทฤษฎี
ด้านที่ 4 แบบทดสอบ มีคุณภาพอยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ 4.56 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.58 และรายการย่อยพบว่า รายการที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุดเท่ากับ 4.67 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.58 คุณภาพอยู่ระดับดีมาก มี 2 รายการย่อย คือ 4.2) วิธีการรายงานผลคะแนนแต่ละข้อของแบบทดสอบ และ 4.3) วิธีการสรุปผลคะแนนรวมท้ายแบบทดสอบ รายการย่อยที่มีค่าเฉลี่ยรองลงมาเท่ากับ 4.33 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.58 คุณภาพอยู่ในระดับดี มี 1 รายการคือ 4.1) วิธีการโต้ตอบแบบทดสอบ เช่นการใช้แป้นพิมพ์ การใช้เมาส์คลิก การเลื่อนเมาส์
ตารางที่ 4 แสดงผลการวิเคราะห์คุณภาพบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน ด้านเนื้อหา
รายการ |
x̅ |
S.D. |
ความหมาย |
1. ความเหมาะสมของภาพ ภาษา เสียง 1.1 ความเหมาะสมของภาพที่ใช้นำเสนอเนื้อหา 1.2 ขนาดของภาพที่ใช้ประกอบบทเรียน 1.3 ภาพกราฟิกที่ใช้ประกอบบทเรียน 1.4 เสียงดนตรีที่ใช้ประกอบบทเรียน |
4.67 4.00 4.67 4.00 |
0.58 1.00 0.58 0.00 |
ดีมาก ดี ดีมาก ดี |
รวม |
4.33 |
0.54 |
ดี |
2. เนื้อหาและการดำเนินเรื่อง 2.1 ความสมบูรณ์ของวัตถุประสงค์ 2.2 ความสอดคล้องระหว่างเนื้อหากับวัตถุประสงค์ 2.3 ปริมาณของเนื้อหาในแต่ละเรื่อง 2.4 ความถูกต้องของเนื้อหา 2.5 ลำดับขั้นตอนในการนำเสนอเนื้อหา 2.6 ความชัดเจนในการอธิบายเนื้อหา 2.7 ความน่าสนใจในการดำเนินเรื่อง |
.
4.67 4.67 4.00 5.00 4.33 4.00 4.00 |
.
0.58 0.58 0.00 0.00 0.58 0.00 0.00 |
.
ดีมาก ดีมาก ดี ดีมาก ดี ดี ดี |
รวม |
4.38 |
0.25 |
ดี |
3. แบบฝึกหัด 3.1 ความสะดวกและคล่องตัวในการใช้แบบฝึกหัด ภาคทฤษฏี…………………………………. 3.2 ความสะดวกและคล่องตัวในการใช้แบบฝึกหัด ภาคปฏิบัติ………..……………………….. 3.3 ความชัดเจนของคำสั่งในแบบฝึกหัด………… |
.
5.00 4.67 5.00 |
.
0.00 0.58 0.00 |
.
ดีมาก ดีมาก ดีมาก |
รวม |
4.89 |
0.19 |
ดีมาก |
4. แบบทดสอบ 4.1 ความชัดเจนของคำถามแบบทดสอบภาคทฤษฎี 4.2 จำนวนข้อของแบบทดสอบภาคทฤษฎี 4.3 ความชัดเจนของคำสั่งแบบทดสอบภาคปฏิบัติ 4.4 จำนวนข้อของแบบทดสอบภาคปฏิบัติ |
. 5.00 4.67 5.00 4.67 |
. 0.00 0.58 0.00 0.58 |
. ดีมาก ดีมาก ดีมาก ดีมาก |
รวม |
4.83 | 0.29 | ดีมาก |
รวมทั้งฉบับ |
4.61 |
0.32 | ดีมาก |
จากตารางที่ 4ผลการวิเคราะห์คุณภาพบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน ด้านเนื้อหา พบว่า ภาพรวมมีคุณภาพอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ค่าเฉลี่ยรวมทั้งฉบับเท่ากับ 4.61 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานรวมทั้งฉบับเท่ากับ 0.32 เมื่อพิจารณาแยกออกเป็นแต่ละด้านพบว่า ด้านที่ 1 ความเหมาะสมของภาพ ภาษา เสียง มีคุณภาพอยู่ในเกณฑ์ดี ค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ 4.33 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานรวมเท่ากับ 0.54 และรายละเอียดรายการย่อยพบว่า รายการย่อยที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดเท่ากับ 4.67 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.58 มีคุณภาพอยู่ในเกณฑ์ดีมาก มี 2 รายการ คือ 1.1) ความเหมาะสมของภาพที่ใช้นำเสนอเนื้อหา และ 1.3) ภาพกราฟิกที่ใช้ประกอบบทเรียน รายการย่อยที่มีค่าเฉลี่ยรองลงมาเท่ากับ 4.00 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 1.00 และ 0.00 มีคุณภาพอยู่ในเกณฑ์ดี มี 2 รายการ คือ 1.2) ขนาดของภาพที่ใช้ประกอบบทเรียน และ 1.4) เสียงดนตรีที่ใช้ประกอบบทเรียน
ด้านที่ 2 เนื้อหาและการดำเนินเรื่อง มีคุณภาพอยู่ในเกณฑ์ดี ค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ 4.38 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานรวมเท่ากับ 0.25 และรายละเอียดรายการย่อยพบว่า รายการย่อยที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดเท่ากับ 5.00 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.00 มีคุณภาพอยู่ในเกณฑ์ดีมาก มี 1 รายการ คือ 2.4) ความถูกต้องของเนื้อหา รายการย่อยที่มีค่าเฉลี่ยรองลงมาเท่ากับ 4.67 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ0.58 มีคุณภาพอยู่ในเกณฑ์ดีมาก มี 2 รายการ คือ 2.1) ความสมบูรณ์ของวัตถุประสงค์ และ 2.2) ความสอดคล้องระหว่างเนื้อหากับวัตถุประสงค์ รายการย่อยที่มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.33 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.58 มีคุณภาพอยู่ในเกณฑ์ดี มี 1 รายการ คือ 2.5) ลำดับขั้นตอนในการนำเสนอเนื้อหา ส่วนรายการย่อยที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดเท่ากับ 4.00ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.00 มีคุณภาพอยู่ในระดับดี มี 3 รายการ คือ 2.3) ปริมาณของเนื้อหาในแต่ละเรื่อง 2.6) ความชัดเจนในการอธิบายเนื้อหา และ 2.7) ความน่าสนใจการดำเนินเรื่อง
ด้านที่ 3 แบบฝึกหัด มีคุณภาพอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ 4.89 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานรวมเท่ากับ 0.19 และรายละเอียดรายการย่อยพบว่า รายการย่อยที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดเท่ากับ 5.00 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.00 มีคุณภาพอยู่ในเกณฑ์ดีมาก มี 2 รายการ คือ 3.1) ความสะดวกและคล่องตัวในการใช้แบบฝึกหัด ภาคทฤษฎี และ 3.3) ความชัดเจนของคำสั่งในแบบฝึกหัด รายการย่อยที่มีค่าเฉลี่ยรองลงมาเท่ากับ 4.67 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.58 มีคุณภาพอยู่ในเกณฑ์ดีมาก มี 1 รายการ คือ 3.2) ความสะดวกและคล่องตัวในการใช้แบบฝึกหัด ภาคปฏิบัติ
ด้านที่ 4 แบบทดสอบ มีคุณภาพอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ 4.83 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานรวมเท่ากับ 0.29 และรายละเอียดรายการย่อยพบว่า รายการย่อยที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดเท่ากับ 5.00 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.00 มีคุณภาพอยู่ในเกณฑ์ดีมาก มี 2 รายการ คือ 4.1) ความชัดเจนของคำถามแบบทดสอบภาคทฤษฏี 4.3) ความชัดเจนของคำสั่งแบบทดสอบภาคปฏิบัติ รายการย่อยที่มีค่าเฉลี่ยรองลงมาเท่ากับ 4.67 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.58 มีคุณภาพอยู่ในเกณฑ์ดีมาก มี 2 รายการ คือ 4.2) จำนวนข้อของแบบทดสอบภาคทฤษฏี และ 4.4) จำนวนข้อของแบบทดสอบภาคปฏิบัติ
ผลการวิเคราะห์ประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนและผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ของคะแนนก่อนเรียนและคะแนนหลังเรียน
1. ผลการหาประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
สมมติฐานการวิจัย ได้แก่ บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน วิชาการจัดการข้อมูลเบื้องต้น เรื่อง การสร้างฟอร์มโดยใช้โปรแกรมไมโครซอฟต์แอกเซส ที่นำมาใช้เป็นเครื่องมือในการสอน การวิเคราะห์ประสิทธิภาพของบทเรียน ได้กระทำกับกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 35 คน เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ห้อง 4 โรงเรียนมัธยมวัดดาวคนอง ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2550 โดยให้กลุ่มตัวอย่างเรียนบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนที่สร้างขึ้น หลังจากนั้นก็ได้ทำการทดสอบใช้เวลา 100 นาที ผลการทดสอบแสดงดังตารางที่ 5
ตารางที่ 5 แสดงผลการหาประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
รายการ |
จำนวนผู้เรียน |
คะแนนเต็ม |
คะแนนรวม ∑Xi |
ประสิทธิภาพ |
คะแนนทำแบบฝึกหัดท้าย หน่วยการเรียน (E1) |
35 |
100 |
2843 |
81.23 |
คะแนนทำแบบทดสอบหลังเรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (E2) |
35 |
100 |
2936 |
83.89 |
จากตารางที่ 5 ผลการหาประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน ค่าประสิทธิภาพของคะแนนทำแบบฝึกหัดท้ายหน่วยการเรียน(E1) มีค่าเท่ากับ 81.33 และค่าประสิทธิภาพของคะแนนทำแบบทดสอบหลังเรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (E2) มีค่าเท่ากับ 83.89 พบว่าประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนคือ 81.33/83.89 สูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้คือ 80/80 ตรงกับสมมติฐานที่ตั้งไว้คือประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนที่สร้างขึ้น ใช้ในการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่ระดับ 80/80 ขึ้นไป ซึ่งดูรายละเอียดในภาคผนวก ค.
ตารางที่ 6 แสดงผลการทดสอบหลังจากที่เรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
x̅ ภาคทฤษฏี |
S.D. ภาคทฤษฏี |
x̅
ภาคปฏิบัติ |
S.D. ภาคปฏิบัติ |
จำนวน ผู้ผ่านเกณฑ์ 80% |
จำนวน ผู้ไม่ผ่านเกณฑ์ 80% |
16.03 |
1.36 |
67.86 |
3.65 |
31 |
4 |
จากตารางที่ 6 ผลการทดสอบหลังจากที่เรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน วิธีหาค่าร้อยละของกลุ่มตัวอย่างเป็นรายบุคคล ซึ่งต้องทำแบบทดสอบให้ผ่านคือ คะแนนรวมของทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ ต้องทำได้ร้อยละ 80 ขึ้นไป โดยแยกเป็นคะแนนเฉลี่ยของแบบทดสอบภาคทฤษฎี 20 คะแนน และคะแนนเฉลี่ยของแบบทดสอบภาคปฏิบัติ 80 คะแนน ผลปรากฏว่า มีผู้ทำแบบทดสอบ สอบผ่าน จำนวน 31 คน คิดเป็นร้อยละ 88.57 ไม่ผ่านจำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 11.43 คะแนนเฉลี่ยของการทำแบบทดสอบภาคทฤษฎีเท่ากับ 16.03 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของแบบทดสอบภาคทฤษฎีเท่ากับ 1.36 และ คะแนนเฉลี่ยของการทำแบบทดสอบภาคปฏิบัติเท่ากับ 67.86 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของแบบทดสอบภาคปฏิบัติเท่ากับ 1.36 ซึ่งดูรายละเอียดในภาคผนวก ค.
2. ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ของคะแนนก่อนเรียนและคะแนนหลังเรียน
ตารางที่ 7 แสดงค่าความแตกต่างระหว่างคะแนนแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน วิชาการจัดการข้อมูลเบื้องต้น เรื่องการสร้างฟอร์มโดยใช้โปรแกรมไมโครซอฟต์แอกเซส
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน |
จำนวน คน |
ค่าเฉลี่ย (x̅) |
ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) |
t |
Sig. (2-tailed) |
ก่อนเรียน |
35 |
35.06 |
3.26 |
-79.32 |
.00 |
หลังเรียน |
35 |
83.89 |
3.99 |
หมายเหตุ t.df ** p < .05
จากตารางที่ 7 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลพบว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนของนักเรียนหลังเรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งยอมรับสมมุติฐานการวิจัย ซึ่งดูรายละเอียดในภาคผนวก ค.