โครงการสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับครูต้นแบบ เก็บข้อมูลในวันที่ 1 – 4 พฤศจิกายน 2559  จำนวน 1,113 กลุ่มตัวอย่าง


บ้านสมเด็จโพลล์ ชี้คนกทม.ต้องการให้ครูปรับปรุงภาษาอังกฤษมากที่สุด  ร้อยละ 70.3 อยากให้เยาวชนสนใจเป็นครู ร้อยละ 82.2 อยากให้รัฐบาลให้ความสำคัญผลิตครู

          ศูนย์สำรวจความคิดเห็นบ้านสมเด็จโพลล์ สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ได้ดำเนินโครงการสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับครูต้นแบบ โดยเก็บจากกลุ่มตัวอย่างจากประชาชนที่อาศัยอยู่ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร จำนวนทั้งสิ้น 1,113 กลุ่มตัวอย่าง เก็บข้อมูลในวันที่ 1 – 4 พฤศจิกายน 2559 ซึ่งกลุ่มตัวอย่างในการสำรวจครั้งนี้ใช้เกณฑ์ตารางสำเร็จรูปของ Taro Yamane กำหนดว่า ประชากรเกิน 100,000 คนต้องการความเชื่อมั่น 95% และความผิดพลาดไม่เกิน 3% ต้องใช้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,111 กลุ่มตัวอย่าง

          ผู้ช่วยศาสตราจารย์(ผศ.)สิงห์ สิงห์ขจร ประธานคณะกรรมการศูนย์สำรวจความคิดเห็นบ้านสมเด็จโพลล์ กล่าวว่า ทางศูนย์สำรวจความคิดเห็นบ้านสมเด็จโพลล์ ต้องการสะท้อนความคิดเห็นในเรื่องครูต้นแบบ ว่าในปัจจุบันสังคมมองครูว่าเป็นอย่างไร ควรมีการปรับปรุงเรื่องใด อาชีพครูเป็นอาชีพที่มีเกียรติและมีศักดิ์ศรี ยังได้รับการยอมรับของชุมชนและสังคมหรือไม่ เพื่อนำไปปรับปรุงในการพัฒนาครูในอนาคตและการผลิตครูในอนาคต ผลการสำรวจในครั้งนี้ต่อครูต้นแบบ มีข้อมูลที่น่าสนใจดังต่อไปนี้

คนกทม. ชี้ครูต้องปรับปรุงภาษาอังกฤษมากที่สุด

ผศ.สิงห์ สิงห์ขจร 

        กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ คิดว่าครูในปัจจุบันมีความรู้ในเรื่องที่สอน อยู่ในระดับดี ร้อยละ 61.5 มีเทคนิคการสอน อยู่ในระดับดี ร้อยละ 57.6 และมีความรู้ในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ อยู่ในระดับดี ร้อยละ 56.8

          ยังคิดว่าครูในปัจจุบันมีความรู้ในด้านภาษาอังกฤษ อยู่ในระดับดี ร้อยละ 49.6 มีความสามารถในการถ่ายทอดด้านศีลธรรม อยู่ในระดับดี ร้อยละ 50.8 และมีความสามารถในการถ่ายทอดด้านความรับผิดชอบในหน้าที่ของตนเอง อยู่ในระดับดี ร้อยละ 52.5

          กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ คิดว่าครูในปัจจุบันควรปรับปรุงในด้านความรู้ในด้านภาษาอังกฤษมากที่สุด ร้อยละ 18.4 อันดับที่สองคือความรู้ในเรื่องที่สอน ร้อยละ 17.7 อันดับที่สามคือถ่ายทอดให้นักเรียนเข้าใจง่าย ร้อยละ 16.1 อันดับที่สี่คือเทคนิคการสอนดี ร้อยละ 9.4 อันดับที่ห้าคือความรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ร้อยละ 9.2

          ในส่วนของครู 1 คนต่อนักเรียนกี่คนในห้องเรียนกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดว่านักเรียนจำนวน 30 คนต่อครู 1 คน มากที่สุด ร้อยละ 33.0 อันดับที่สองคือนักเรียนจำนวน 40 คนต่อครู 1 คน ร้อยละ 22.8 อันดับที่สามคือนักเรียนจำนวน 20 คนต่อครู 1 คน ร้อยละ 19.0

          กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ อยากให้เยาวชนสนใจในการศึกษาต่อในด้านครู ร้อยละ 70.3 ในส่วนของมุมมองที่อยากให้รัฐบาลให้ความสำคัญต่อการผลิตครู กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ต้องการร้อยละ 82.2

          และคิดว่าครูต้นแบบควรมีทักษะที่สำคัญมากที่สุดคือความรู้ในเรื่องที่สอน ร้อยละ 20.4 อันดับที่สองคือถ่ายทอดให้นักเรียนเข้าใจง่าย ร้อยละ 19.1 อันดับที่สามคือความรู้ในด้านภาษาอังกฤษ ร้อยละ 13.8 อันดับที่สี่คือเทคนิคการสอนดี ร้อยละ 12.7 อันดับที่ห้าคือทักษะในการประยุกต์ใช้ความรู้ ร้อยละ 6.3

 

โดยได้รับการเผยแพร่จากสื่อมวลชนดังต่อไปนี้

หนังสือพิมพ์แนวหน้า http://www.naewna.com/local/243365

หนังสือพิมพ์คมชัดลึก http://www.komchadluek.net/news/edu-health/248042

หนังสือพิมพ์ M2F ฉบับวันที่ 9 พฤศจิกายน 2559 

เว็บไซด์ http://education.teenee.com/news/179.html

เว็บไซด์ http://www.kroobannok.com/80469

เว็บไซด์ http://www.kruwandee.com/news-id33266.html