ชื่อผลงานทางวิชาการ : การพัฒนาประสิทธิภาพในการทำงาน
ประเภทผลงานทางวิชาการ : ตำรา
ปีที่พิมพ์ : ฉบับปรับปรุง 2557
ข้อมูลเพิ่มเติม : _
ชื่อเจ้าของผลงานทางวิชาการ/ตำแหน่งทางวิชาการ :
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นฤมล สุ่นสวัสดิ์
อาจารย์รัชนก ปัญญาสุพัฒน์ อาจารย์โสภณ สระทองมา
สาขาวิชาการเป็นผู้ประกอบการ คณะวิทยาการจัดการ
มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา
บทนำเข้าสู่ความสนใจ
ตำรา เรื่อง “การพัฒนาประสิทธิภาพในการทำงาน” เรียบเรียงโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นฤมล สุ่นสวัสดิ์ อาจารย์รัชนก ปัญญาสุพัฒน์ อาจารย์โสภณ สระทองมา สาขาวิชาการเป็นผู้ประกอบการ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา มีวัตถุประสงค์ เพื่อมุ่งเน้นให้ผู้เรียนและผู้ที่เกี่ยวข้อง มีความรู้ในการพัฒนาตนนำไปสู่การพัฒนาประสิทธิภาพในการทำงาน และเพื่อพัฒนาให้ทุกคนเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้ คุณธรรม มีจริยธรรมและวัฒนธรรมในการดำรงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข (ม.6) ยึดหลักว่า ผู้เรียนทุกคน/ผู้เกี่ยวข้องมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ ถือว่าผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด ส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ (ม.22) เน้นความสำคัญทั้งความรู้ คุณธรรม และกระบวนการเรียนรู้ ให้มีความรู้และทักษะในการประกอบอาชีพและดำรงตนอย่างมีความสุข (ม.23) จัดเนื้อหาและกิจกรรมโดยคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล ฝึกทักษะและประยุกต์ความรู้มาใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหา จัดการเรียนการสอนผสมผสานสาระความรู้ด้านต่างๆ ปลูกฝังคุณธรรม ค่านิยมที่ดีงาม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (ม.24) มีการประเมินผู้เรียน โดยพิจารณาจากพัฒนาการของผู้เรียน ความประพฤติ การสังเกตพฤติกรรมการเรียน การร่วมกิจกรรม และการทดสอบควบคู่ไปในกระบวนการเรียนการสอน (ม.25) โดยมีเนื้อหาทั้งที่เป็นวิชาการและวิชาชีพ ที่มุ่งพัฒนาคนให้มีความสมดุลทั้งด้านความรู้ ความคิด ความสามารถ ความดีงามและความรับผิดชอบต่อสังคม (ม.28) จึงได้มีการให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้เนื้อหาไปพร้อมกับฝึกปฏิบัติเพื่อความเข้าใจได้รวดเร็ว โดยในปี 2557 ได้มีการปรับปรุง เพิ่มเติมเนื้อหาที่จำเป็นสำหรับการปฏิบัติงานและการดำรงชีวิตของผู้เรียนและผู้เกี่ยวข้อง ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกในปัจจุบัน ทำให้ตำราเล่มนี้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
สรุปสาระของตำรา เรื่อง การพัฒนาประสิทธิภาพในการทำงาน
การพัฒนาประสิทธิภาพในการทำงาน เป็นทางแห่งความเจริญก้าวหน้า คนต้องพัฒนาตนจึงอยู่รอด แล้วเจริญก้าวหน้า คนต้องพัฒนาเท่าการเปลี่ยนแปลงของสังคมจึงเข้ากับคนในสังคมนั้นได้ มิฉะนั้นจะเป็นคนที่ถูกเรียกว่าตกรุ่น ในฐานะคนทำงานก็ต้องพัฒนาหรือปรับปรุงตนเองอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากเทคโนโลยี วิธีการทำงานเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การปฏิบัติงานในองค์การต้องตอบรับวัตถุประสงค์เป้าหมายขององค์การ ของหน่วยธุรกิจที่ตนรับใช้อยู่ การจะตอบสนองเป้าหมายขององค์การได้ต้องอาศัยสมรรถนะของตนเอง อันได้แก่ความรู้ ทักษะ เจตคติ ที่ต้องแสวงหา ฝึกฝน ฝึกตนให้มีขีดความสามารถตรงกับที่องค์การหรือหน่วยงานต้องการ รากฐานของการพัฒนาตนเริ่มที่การรู้จักตนเอง รู้ว่าตนมีจุดแข็งจุดอ่อนอะไรบ้าง โดยต้องมีเจตคติด้านบวก มีการตั้งเป้าหมาย และตนเตือนตน ยึดหลักการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เนื้อหาเริ่มจากการมุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถในการพัฒนาตนเอง ปรับแต่งบุคลิกภาพ เข้าใจความต้องการของมนุษย์ ค่านิยม การสำรวจและแลกเปลี่ยนค่านิยม วัฒนธรรมในการทำงาน การตั้งเป้าหมายในชีวิตและการทำงาน การสำรวจความรู้สึก ปัญหาอุปสรรคและวิธีการพิชิตอุปสรรคในการทำงาน สร้างความเชื่อมั่นในตนเอง พัฒนาประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำงาน ซึ่งตำราเล่มนี้ ประกอบด้วย 12 บท แต่ละบทจะประกอบด้วย เนื้อหาที่สำคัญ บทสรุป กิจกรรมท้ายบท คำถามทบทวน และเอกสารอ้างอิง ดังนี้
บทที่ 1 ปรัชญาและอุดมการณ์ในการพัฒนาตนเอง ประกอบด้วย ความหมายของการพัฒนาตน การรู้จักตนเอง แนวคิดและหลักการพัฒนาตน ปรัชญาและอุดมการณ์ในการพัฒนาตนเอง ขอบเขตของเอกสารประกอบการสอน ทดสอบก่อนเรียน คุณค่าแห่งฉัน รู้จักกันมากขึ้น
สัญญาการเรียนรู้
บทที่ 2 ผลิตภาพ ประกอบด้วย ความหมายของคำว่า ผลิตภาพ การวัดผลิตภาพ การใช้ผลิตภาพวิเคราะห์บริษัท กระบวนการของผลิตภาพ องค์ประกอบและการแบ่งสรรของผลิตภาพ ผลิตภาพในฐานะกุญแจสู่มาตรฐานการครองชีพที่สูงขึ้น
บทที่ 3 คุณภาพ ประกอบด้วย ความหมายของคุณภาพ ความเป็นมาของ “คุณภาพ”สายโซ่คุณภาพ การปฏิบัติงานเป็นกระบวนการ คุณภาพของสินค้าและคุณภาพการบริการ วงล้อคุณภาพ แนวคิดเกี่ยวกับคุณภาพ
บทที่ 4 ประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำงาน ประกอบด้วย ความหมายของความมีประสิทธิผลและความมีประสิทธิภาพ ทำไมคุณภาพจึงสำคัญ 4 C ของคุณภาพ เป้าหมายขององค์การ มาตรฐานการปฏิบัติงาน การสร้างประสิทธิภาพในการทำงาน
บทที่ 5 การตั้งเป้าหมายของชีวิตและการทำงาน ประกอบด้วย ความหมายของเป้าหมาย ความสำคัญของเป้าหมาย อุปสรรคขวางกั้นการบรรลุเป้าหมาย หลักการบรรลุเป้าหมาย ลักษณะของเป้าหมายที่ดี หลักการกำหนดเป้าหมายการทำงาน ทวีตัวขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จ
บทที่ 6 เจตคติ ประกอบด้วย ความหมายของคำว่า เจตคติ องค์ประกอบ ที่มา หน้าที่ ประโยชน์และปัจจัยที่มีผลกระทบต่อเจตคติ การปรับเจตคติ การพูดกับตนเองด้านบวก การมองภาพ
บทที่ 7 ค่านิยม ประกอบด้วย ความหมายของค่านิยม องค์ประกอบของค่านิยม ประเภทของค่านิยม กระบวนการเกิดและพัฒนาการของค่านิยม ค่านิยมองค์การและค่านิยมส่วนตัว ค่านิยมร่วม ค่านิยมกับการทำงาน
บทที่ 8 วัฒนธรรมในองค์การ ประกอบด้วย ความหมายของวัฒนธรรมองค์การ แนวคิดของวัฒนธรรมองค์การ การบ่งชี้วัฒนธรรม องค์ประกอบของวัฒนธรรมองค์การวัฒนธรรมองค์การของดีลและเคเนดี้ การเข้าใจและบริหารวัฒนธรรมbรูปแบบการแสดงออกของวัฒนธรรมองค์การ วัฒนธรรมองค์การมีผลต่อผู้บริหาร
บทที่ 9 บุคลิกภาพ ประกอบด้วย ความหมายของบุคลิกภาพ ความสำคัญของบุคลิกภาพการจำแนกบุคลิกภาพ องค์ประกอบของบุคลิกภาพ สภาพการควบคุมบุคลิกภาพการปรับปรุงบุคลิกภาพ ลักษณะของคนที่มีบุคลิกภาพที่ดี
บทที่ 10 การสร้างความเชื่อมั่นในตนเอง ประกอบด้วย ความหมายของการสร้างความเชื่อมั่นในตนเอง แนวคิดของความเชื่อมั่นในตนเอง หลักการในการพัฒนาความเชื่อมั่นในตนเอง การ
เผชิญหน้าความจริงกับความสามารถในการสร้างความเชื่อมั่นในตนเอง วิธีการสร้างความเชื่อมั่นในตนเอง วิธีเพิ่มความเชื่อมั่นในตนเอง
บทที่ 11 ความต้องการของมนุษย์ ประกอบด้วย ความหมายของการจูงใจ ทฤษฎีคืออะไร ทำไมจึงเป็นทฤษฎี ทฤษฎีจูงใจแบบความจำเป็น ลักษณะความจำเป็น ทฤษฎีอนามัย-แรงงจูงใจของเฮอร์สเบอร์ ทฤษฎีจูงใจแบบพฤติกรรมและความรู้ การปรับขยายพฤติกรรม
บทที่ 12 การพิชิตปัญหาและอุปสรรคในการทำงาน ประกอบด้วย ความหมายของปัญหา ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับปัญหา กระบวนการในการแก้ปัญหา ความแตกต่างระหว่างการแก้ปัญหากับการตัดสินใจ หลักการในการแก้ปัญหา วงจร PDCA เพื่อการบรรลุผล ปรับปรุง แก้ไข
จุดเด่น/การนำไปใช้ประโยชน์
ตำรา เรื่อง การพัฒนาประสิทธิภาพในการทำงานนี้ สิ่งที่จำเป็นและสำคัญลำดับแรกของการพัฒนา คือ ปรัชญาและอุดมการณ์ในการพัฒนาตนเอง เป็นความมุ่งมั่นไขว่คว้าเพื่อเพิ่มสมรรถนะ ขีดความสามารถของตนอันก่อเกิดประโยชน์แก่ตนเองและองค์การที่ทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางเศรษฐกิจของประเทศ ดังนี้
จุดเด่นที่ 1 การพัฒนาตน
การพัฒนาตน (Personal Development) เป็นการเพิ่มขีดความสามารถ ขยายความเฉลียวฉลาด สติปัญญาเพื่อให้มีความก้าวหน้าในชีวิตส่วนตัวและการงาน ให้ชีวิตมีความหมายและความพึงพอใจ อาจพัฒนาโดยตนเองนำตนเอง หรือมีคนอื่นมานำให้พัฒนาด้วยการให้การกระตุ้นจูงใจ ให้การสนับสนุน แต่ในท้ายที่สุดก็คือเพิ่มความสามารถให้แก่ตน
จุดเด่นที่ 2 การรู้จักตนเอง
ผู้มีการพัฒนาตนต้องรู้จักตน วิเคราะห์ตนเองให้เห็นชัดว่าตนเป็นใคร มาจากไหน ทำอะไร มีอะไรเป็นเป้าหมายของชีวิต โสกราติส นักปราชญ์ชาวกรีกกล่าวว่า “ชีวิตที่ไม่ได้ตรวจสอบ เป็นชีวิตที่ไร้ค่า” คนที่หวังความก้าวหน้า ควรกำหนดจุดหมายปลายทางชีวิตของตน พิจารณาว่าจะนำตนไปสู่จุดหมายของชีวิตได้อย่างไร ต้องทำตนอย่างไรจึงเผชิญสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม การรู้จักตนเองจึงเป็นรากฐานแห่งการนำชีวิตไปสู่จุดหมายได้อย่างราบเรียบ
จุดเด่นที่ 3 ความสมดุลระหว่างชีวิต การงานและสังคม
เพื่อเป็นคนที่มีพัฒนาการสมดุลทั้งชีวิตส่วนตัวและการงาน วงล้อแห่งชีวิตมีความจำเป็นและสำคัญสำหรับการจะเป็นคนสมบูรณ์ คนต้องพัฒนาชีวิตทั้งหกด้านควบคู่กันไปให้ได้ดุลกัน คือ
- สุขภาพและร่างกาย มีร่างกายแข็งแรง สุขภาพดี จึงดำรงชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ คนตายไม่อาจทำงานได้ คนป่วยก็ไม่อาจทำงานได้เต็มที่
- สติปัญญาและการศึกษา การเรียนรู้และพัฒนาตนตลอด ทำให้เติบโตทั้งความคิดและจิตใจ พร้อมเผชิญหน้าสิ่งท้าทายในงานอาชีพ ทำให้มีทักษะฝ่าฟันสร้างสรรค์
- การเงินและอาชีพ การเงินดี ทำให้มีเจตคติบวกและสภาพคล่องในการดำรงชีวิต เป็นส่วนสำคัญในการจัดการงานอาชีพ การมีอาชีพเหมาะกับทักษะก็ทำให้ทำงานอย่างมีความสนุก มีรายได้
- ครอบครัวและบ้านเรือน ครอบครัวที่อยู่ครบพร้อมหน้าใกล้ชิด บ้านเรือนที่น่าอยู่ สร้างสัมพันธ์ภาพของคนให้แน่นเหนียว มีจิตใจมั่นคง เป็นแรงใจแก่กัน
- จริยธรรมและจิตวิญญาณ ปรัชญาความเชื่อ ศีลธรรม จรรยามารยาท ความเชื่อที่อยู่นอกเหนือสภาพทางวัตถุ เป็นแหล่งแห่งพลังและการสร้างสรรค์ในการเพิ่มการเกื้อหนุนให้แก่คนอื่น
- สังคมและวัฒนธรรม ความสามารถในการเข้ากันได้กับผู้อื่น อยู่ร่วมกับคนอื่นในชุมชน ในสังคมโลกได้อย่างกลมเกลียว ทักษะความรับผิดชอบต่อชุมชนและสังคมจำเป็นในการสร้างความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น
จุดเด่นที่ 4 เส้นทางอาชีพ
การรู้เส้นทาง ช่วยให้เดินทางรวดเร็ว ถูกต้อง เส้นทางอาชีพก็ช่วยให้ผู้ประกอบอาชีพมีความเจริญก้าวหน้า เส้นทางอาชีพ คือ โอกาสในการเจริญเติบโตในงานอาชีพ นักขายอาจเริ่มจากการเป็นนักขายฝึกหัด นักขายผู้น้อย นักขายอาวุโส ผู้จัดการฝ่ายขาย ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการตลาด ผู้จัดการฝ่ายการตลาด รองประธานบริษัทฝ่ายการตลาด และเป็นประธานบริษัท หรืออาจจากการเป็นผู้จัดการฝ่ายขายไปรับผิดชอบงานด้านค้าปลีก หรือ งานโฆษณาก็ได้
การรู้เส้นทางอาชีพว่าจะเจริญเติบโตไปได้ในทางใด ทำให้มีการวางแผนชีวิตของตนเองได้ ทำให้มีการตั้งเป้าหมายให้ไปสู่จุดหมายสูงสุดที่ตนต้องการเป็น การรู้เส้นทางอาชีพจึงเป็นทางพัฒนาตนเองอีกทางหนึ่งเปรียบเสมือนรู้จักแผนที่เพื่อเดินทางไปถึงจุดหมายปลายทาง
ดังนั้น ทุกคนต้องมีอุดมการณ์ในการพัฒนาตนเองก่อนเป็นลำดับแรก
จุดเด่นที่ 5 เป้าหมายในการพัฒนาตนเอง เป็นการปรับปรุงผลิตภาพส่วนตัว คือทำงานได้ผลผลิตมากกว่าปัจจัยนำเข้า เนื่องจากผลิตภาพส่วนตัวของผู้ปฏิบัติงานมีผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ ผลิตภาพเกิดจากความมีประสิทธิผล ความมีประสิทธิภาพในการทำงาน ทำงานได้ตามเป้าหมาย รู้จักใช้นวัตกรรม เนื่องจากผู้ปฏิบัติงานมีสมรรถนะ คือ ความรู้ ทักษะและเจตคติ กับทั้งทำงานมีประสิทธิภาพ คือ ทำงานได้งานตามปริมาณ ตรงคุณภาพ โดยใช้ทรัพยากรอย่างประหยัด ประกอบด้วยเจตคติและการตั้งเป้าหมาย เจตคติเป็นความคิดจิตใจ เป็นฝ่ายนำของการปฏิบัติ มีเจตคติเช่นใดก็จะแสดงท่าทีและพฤติกรรมออกมาเช่นนั้น เจตคติที่ควรมีคือเจตคติด้านบวก ส่วนการตั้งเป้าหมาย เป็นการกำหนดทิศทางที่ต้องการไปให้ถึง เป็นป้ายบอกทางให้การดำเนินงาน ดำเนินชีวิตได้ตรงความตั้งใจ คาดหวัง หรือมุ่งมาดปรารถนา
จุดเด่นที่ 6 ความเจริญก้าวหน้าของประเทศ อยู่ที่ความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจซึ่งทำให้เกิดมาตรฐานการครองชีพสูง ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น เนื่องจากได้รับเงินค่าจ้างสูงขึ้น มีเงินจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น คุณภาพชีวิตดีขึ้น ความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศเกิดจากการผลิตที่ได้ผลผลิตต่อหน่วยมากกว่าทรัพยากรที่เป็นปัจจัยนำเข้า มีความแกร่งทางการแข่งขันสูงขึ้น ผลิตภาพของประเทศเป็นตัวชี้วัดอัตราเติบโตของเศรษฐกิจ ในตำราเล่มนี้เริ่มด้วยผลิตภาพ เพื่อให้ทราบแนวคิดว่าการพัฒนาประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานล้วนเสริมผลิตภาพของประเทศเกิดจากผลรวมของผลิตภาพระดับอุตสาหกรรมหรือบริษัท ซึ่งเป็นผลรวมมาจากผลิตภาพของผู้ปฏิบัติงานในอุตสาหกรรมหรือบริษัท ดังนั้นการเพิ่มผลิตภาพของประเทศจึงอยู่ที่การเพิ่มผลิตของคนทำงานแต่ละคน มีส่วนโดยตรงต่อการเพิ่มผลิตภาพของประเทศ การทำงานอย่างมีประสิทธิผลคือทำงานได้ตรงตามเป้าหมาย ได้ผลลัพธ์ดังที่กำหนดไว้ ส่วนการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพเป็นการทำงานที่ใช้ปัจจัยผลิต คือ แรงงาน วัสดุ เครื่องจักร ได้อย่างประหยัด ในอีกด้านหนึ่ง เชื่อว่า เจตคติ เป็นส่วนสำคัญที่ก่อให้เกิดการทำงานเพิ่มผลิตภาพ การมีเจตคติด้านบวก การตั้งเป้าหมายจึงมีผลต่อการทำงานที่มีประสิทธิผลและการทำงานที่มีประสิทธิภาพ โดยที่การทำงานให้ได้ผลตรงตามความต้องการของลูกค้าเป็นการทำงานมีคุณภาพ ดังนั้นคุณภาพของงานหรือผลผลิตทำให้ลูกค้าพึงพอใจ
ลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้ปฏิบัติงานที่จะก่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล นอกจากมีเจตคติด้านบวกแล้ว ยังมีค่านิยม ที่ส่งเสริมการทำงานอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำงานในองค์การต้องมีกาวผนึกความเป็นปึกแผ่นของคนทำงานเข้าด้วยกัน วัฒนธรรมองค์การ เป็นตัวเชื่อมประสานจิตใจของผู้คนให้เป็นอันหนึ่งน้ำใจเดียวกัน
ผู้ปฏิบัติงานคนใด หากขาดความเชื่อมั่นในตนเอง จะทำงานไม่ค่อยได้ผลมากนัก การสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ตนเองจึงมีความสำคัญ แต่ละคนมีความต้องการไม่เหมือนกัน การรู้ความต้องการของมนุษย์ จะช่วยในการจูงใจให้คนทำงานให้มีประสิทธิภาพประสิทธิผล ส่วนบุคลิกภาพ เป็นส่วนทำให้เข้ากับคนอื่นได้ การทำความเข้าใจต่อกันและกันอาศัยการสื่อสาร หากไม่เข้าใจหรือมีข้อขัดแย้งก็ต้องอาศัยเรื่องการพิชิตปัญหาและอุปสรรคในการทำงาน
จะเห็นได้ว่า ตำราเรื่องการพัฒนาประสิทธิภาพในการทำงานนี้ ผู้ที่สนใจทุกคนสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงทั้งในชีวิตประจำวันและการประกอบอาชีพทุกศาสตร์ ทุกองค์กรของภาครัฐและภาคเอกชน เช่น การบริหารงานบุคคล การตลาด การบัญชี การท่องเที่ยว และธุรกิจบันเทิง เป็นต้น
บรรณานุกรม
เนตร์พัณณา ยาวิราช. (2556). การจัดการสมัยใหม่. กรุงเทพฯ: พิมพ์ครั้งที่ 8, ทริปเพิ้ล กรุ๊ป จำกัด.
พุทธทาส อินทปัญญา (2540). ข้อหัวธรรมในคำกลอน. กรุงเทพฯ: ธรรมสภา.
ระเด่น ทักษณา. (2542). มาดต้องตา วาจาต้องใจ ภายในต้องเยี่ยม. กรุงเทพฯ : แว่นแก้ว.
วารินทร์ สินสูงสุด และวันทิพย์ สินสูงสุด. (2544). กิจกรรม 5 ส. สร้างสรรค์มาตรฐานงาน. กรุงเทพฯ: สถาบันเพิ่มผลผลิตบัณฑิตธรรม.
วิเชียร วิทยอุดม. (2551). พฤติกรรมองค์การ. กรุงเทพฯ: พิมพ์ครั้งที่ 4, ธนธัชการพิมพ์ จำกัด.
สมชาติ กิจยรรยง. (2539). เกมและกิจกรรมเพื่อพัฒนาบุคลากร.กรุงเทพฯ: ซีเอ็ดยูเคชั่น.
สุพจน์ รัตนาพันธุ์. (2552). พฤติกรรมองค์การและการจัดการ. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์ท็อป จำกัด.
Aldag, R. J., & Kuzahara, L. W. (2001). Organizational behavior and management : An integrated skills approach. OH: South-Western.
Brinkerhoff, R. O., & Dressler, D.E. (1990). Productivity measurement : A guide for managers and evaluators. New Burly Park: Sage.
Capon, C. (2000). Understand organizational context. Harlow: Prentice Hall.
Champous, J. E. (2000). Organizational behavior: essential tenets for a new millennium. Cincinnati: South-Western College.
Crosby, P. B. (1986). Quality is free. Boston: McGraw-Hill.
Drennan, D. (1999). 12 Ladders to world class performance. London: Kogan Page.
Dubrin, A.J. (2002). Fundamentals of organizational behavior. OH:
South- Western.
Ducker, P. (1997). Productivity concepts and their applications. Singapore:
Prentice Hall.
Griffin, M. (2001). Organizational behavior. New York: Houghton Mifflin.
Guideline on concept and use of the process approach for management system
(2005). ISO 9000:2000. (Online). Available:
http://www.ISO.ch/ (2005, Septembers 8).
Han K. H. (1990). Productivity in transition. Singapore: McGraw-Hill.
Hodgetts, R. M.(1966). Modern human relations at work. (4th ed.).: Dryden.
Juran, J. M. (1999). Quality control handbook. New York: McGraw-Hill.
Kaplan, R. S., & Norton, D. P. (2001). The strategy-focused organization. Massachusetts: Harvard Business School.
Kotter, J. P. (2003). Leading change. Boston: Harvard Business School.
Leman, C. M., & Dufrene, D.D. (2002). Business communication. (13th ed.).OH:
South – Western.
Maslow, A. (1970). Motivation and personality. New York: Harbera Row.
National Productivity and Standard Board (1999). Productivity measurement.
Singapore: Author.
Oakland, J. (2000). Total Quality Management. (2nd ed.). Oxford:
Butterworth Heinemann.
Robbins,S. P. (2001). Organizational behavior, (9th ed.). NJ: Prentice Hall.
Robbins S. P., & Mary C. (2003). Management. (7th ed.) Pearson Education.
Rouillard, L. A. (1993). Goals and goal setting. London: Kogan Page.
Saiyadain, M. S. (2003). Organizational behavior. New Delhi: Tata. McGraw-Hill.
Smith, P. R. (2005). Practice management digest. New York: AIA.
Waters, M. (1996). Dictionary of personal development. Shaftsbury Dorset: Element Books.
etc.
สำนักพิมพ์วันทิพย์ พิมพ์ที่สยามมิตรการพิมพ์ กทม.
ผศ.ดร.นฤมล สุ่นสวัสดิ์ โทร. 089-7468850
จำนวน ๓๙๖ หน้า