ถ้วยทอง ไม้สวยดอกใหญ่ปลูกง่ายดอกดก

ผศ.วิชัย  ปทุมชาติพัฒน์

 

ความนำ          “ถ้วยทอง”เป็นไม้เลื้อยดอกสวยมีกลิ่นหอม ออกดอกตลอดปี ในช่วงหน้าหนาวจะให้ดอกดกเป็นพิเศษ ส่วนฤดูอื่นจะออกดอกมากบ้างน้อยบ้างตามความสมบูรณ์ของต้น ซึ่งขึ้นอยู่กับการบำรุงรักษาด้วย  ดอกของถ้วยทองมีขนาดใหญ่เท่ากำปั้นสีเหลืองอ่อน เมื่อบานสะพรั่งพร้อมกันจะดึงดูดสายตาของผู้พบเห็น นิยมปลูกไว้ริมรั้ว ให้ปีนป่ายรั้วบ้านไปอวดความสวยงามบนที่สูง  มีผู้สนใจถามอยู่เสมอว่าชื่ออะไร มีผลมีเมล็ดหรือไม่ ขยายพันธุ์อย่างไร บทความนี้จะให้คำตอบทั้งหมดรวมทั้งให้คำแนะนำในการปลูกบำรุงรักษา

 

ถ้วยทอง

 

ชื่อวิทยาศาสตร์           Solandra  grandiflora Swartz

ชื่อวงศ์                     SOLANACEAE

ชื่อสามัญ                  Trumpet Plant , Golden cup

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์                    ไม้เถาเลื้อยขนาดใหญ่ อายุหลายปี เถาเลื้อยพาดไปได้ไกล 2 – 5 เมตร มีรากพิเศษออกตามลำต้นจำนวนมาก เปลือกเถาสีเขียวเข้ม เรียบเกลี้ยงเมื่อแก่จะกลายเป็นสีน้ำตาล มีเปลือกแห้งล่อนเป็นแผ่นเล็กๆ ใบเดี่ยวเรียงสลับ ใบถี่บริเวณปลายยอดและกิ่งก้าน ใบมีลักษณะเป็นรูปทรงรีแกมขอบขนาน แผ่นใบเรียบสีเขียวเข้มและค่อนข้างหนา โคนใบสอบ ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบมีคลื่นเล็กน้อย ความยาว 11-15 ซม. ก้านใบแข็ง ยาว 1-5 ซม. ดอกเดี่ยว ออกตามซอกใบบริเวณปลายกิ่ง ดอกตูมมีลักษณะพองออกคล้ายลูกโป่ง เมื่อบานกลีบดอกสีเหลืองหรือสีขาวอมเหลืองรูปถ้วยจำนวน 5 กลีบ กลีบดอกด้านในแต้มด้วยแถบสีม่วงอมน้ำตาลประมาณ 10 เส้น โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันและแยกออกจากกันที่ส่วนปลาย กลางดอกมีเกสรเพศผู้ยาว 6.5-9 ซม. จำนวน 5-6 อัน อับเรณูรูปขอบขนาน มีก้านชูเกสรเพศเมียยาวมาก1 อัน ยื่นพ้นออกมาเหนือดอกเล็กน้อย  บริเวณโคนดอกมีกลีบเลี้ยงที่เชื่อมติดกันเป็นหลอด ยาว 6.5-10 ซม. ดอกเมื่อบานเต็มที่เต็มที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 8-10 ซม. ยาว 12-18 ซม. มีกลิ่นหอมแรงตอนเย็น ออกดอกมากในช่วงเดือนตุลาคม-มกราคม ซึ่งเป็นฤดูหนาว เมื่อกลีบดอกและเกสรเพศเมียร่วงหลุดไปพร้อมกัน จะเหลือก้านชูเกสรเพศเมียขนาดยาวคงไว้ที่ฐานรองดอกและกลีบเลี้ยง เป็นเช่นนี้ทุกดอก  ผลมีลักษณะเป็นรูปทรงกลมรีขนาดใหญ่ ผิวผลเรียบสีเหลืองอ่อน ปลายผลมีติ่งแหลม เปลือกผลเหนียว ภายในผลมีเมล็ดสีน้ำตาลรูปไตเป็นจำนวนมาก

การขยายพันธุ์   การปักชำกิ่ง เป็นการขยายพันธุ์ที่ง่ายและรวดเร็ว การขยายพันธุ์ถ้วยทองสามารถทำได้ง่ายด้วยการปักชำกิ่ง เนื่องจากเถาจะเกิดรากที่ข้อได้เองตามธรรมชาติอยู่แล้ว การตัดท่อนนั้นไปปักชำหรือปลูกก็จะออกรากได้ง่าย และเจริญเติบโตได้เร็ว หากติดผลก็นำเมล็ดจากผลมาเพาะกล้าได้

ประโยชน์        นิยมปลูกเป็นไม้ประดับตามสถานที่ต่างๆ เนื่องจากมีดอกสวย กลิ่นหอม มีดอกให้ชื่นชมได้ตลอดทั้งปี หากทำเป็นซุ้มให้เลื้อยก็จะให้ร่มเงาได้เป็นอย่างดี หรือจะปลูกประดับไว้ตามแนวรั้วก็ได้

หมายเหตุ       

      1. จัดเป็นพืชที่อยู่ในวงศ์เดียวกันกับมะเขือ

  1. ปกติจะไม่ค่อยติดผล แต่หากติดผล จะพบว่าผลมีลักษณะเป็นรูปทรงกลมรีขนาดใหญ่ ผิวผลเรียบสีเหลืองอ่อน ปลายผลมีติ่งแหลม เปลือกผลเหนียว ภายในผลมีเมล็ดสีน้ำตาลรูปไตเป็นจำนวนมาก
  2. ถิ่นกำเนิดอยู่ในเขตร้อนของทวีปอเมริกาใต้ เช่น ประเทศบราซิล จาไมก้า และเวเนซุเอล่า เป็นต้น สำหรับภูมิอากาศในประเทศไทยก็สามารถปลูกเลี้ยงพืชชนิดนี้ได้เป็นอย่างดี

การปลูก          ถ้วยทองชอบแสงแดดมาก หากที่ปลูกได้รับแสงแดดเต็มวันจะให้ดอกดกมาก  ในช่วงหน้าหนาวจะให้ดอกดกเป็นพิเศษ ควรปลูกถ้วยทองบริเวณริมรั้วเพื่อให้เถาถ้วยทองสามารถใช้รั้วเป็นหลักยึดเกาะเพื่อการทรงตัวของลำต้น หรืออาจจะปลูกทำเป็นซุ้มประตูโดยใช้โครงเหล็กดัดหรือโครงไม้ก็ได้ จะได้เป็นที่อิสระ ไม่ไปเกี่ยวพันไม้อื่นให้เสียหาย  ปลูกโดยกิ่งชำที่ได้จากการปักชำมาปลูก ซึ่งง่ายกว่าการเพาะเมล็ดมาก ให้ปลูกลงดินโดยขุดหลุมปลูกให้ มีความกว้างลึกประมาณ 1 x 1 หรือ 1 x 1.5 ฟุต แล้วรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก ประมาณ 1 กิโลกรัม กลบดินเล็กน้อย แล้วปลูกกิ่งชำลงกลางหลุม กลบดินพอแน่น แล้วรดน้ำให้ชุ่มวันละ 2 ครั้งเช้า-เย็น เมื่อตั้งตัวได้แล้วให้รดน้ำวันละ 1 ครั้ง ควรรดในปริมาณที่พอเหมาะ คือจะต้องรดให้ดินชุ่ม แต่ไม่ถึงกับมีน้ำขังจนแฉะเพราะจะทำให้ระบบรากเน่า  ให้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกปีละ 2-3 ครั้ง ในบริเวณโคนต้นก็เพียงพอแล้ว หากจะใช้ปุ๋ยวิทยาศาสตร์ ให้ใช้สูตรเสมอ 15-15-15  โรยที่โคนต้น 3 – 5 ช้อนเดือนละครั้ง เพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตให้เร็วขึ้น ไม่พบว่ามีโรคหรือแมลงชนิดใดรบกวนต้นถ้วยทอง  เพียง 4-6 เดือน ก็จะออกดอกให้ได้ชมเป็นครั้งแรก

 

 

อ้างอิง

https://www.gotoknow.org/posts/551827

http://www.maipradabonline.com/maileay/tuythong.htm

http://www.vichakaset.com