องค์ความรู้ซอสามสายของครูเอกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์
สุรพงษ์ บ้านไกรทอง*
*วิทยาลัยการดนตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา
การวิจัยเรื่อง “องค์ความรู้ซอสามสายของครูเอกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์”
เป็น โครงการรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม.
สุรพงษ์ บ้านไกรทอง
การศึกษาวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ๑) ศึกษาประวัติการถ่ายทอดซอสามสายในกรุงรัตนโกสินทร์ ๒) เก็บรวบรวมองค์ความรู้การบรรเลงเดี่ยวซอสามสายของครูเอกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ๓) บันทึกองค์ความรู้การบรรเลงเดี่ยวซอสามสายที่มีสภาวะวิกฤตต่อการสูญหายในรูปแบบของวีดีทัศน์และโน้ตเพลง
วิธีการดำเนินการวิจัย ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ เก็บรวบรวมข้อมูล โดยการศึกษาเอกสาร การสัมภาษณ์เชิงลึก และการสังเกตอย่างมีส่วนร่วม
ผลการวิจัย
๑. ซอสามสาย เป็นเครื่องดนตรีไทยที่ปรากฏหลักฐานทางประวัติศาสตร์ยาวนาน มาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี เป็นเครื่องดนตรีที่มีลักษณะทางกายภาพที่สวยงาม มีกรรมวิธีการสร้างที่ประณีตบรรจง ใช้บรรเลงในพระราชพิธี ยาวนานมาจนถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ได้ปรากฏคีตกวีที่มีชื่อเสียงได้แก่ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระประดิษฐไพเราะ (มี) ซึ่งถือเป็นคีตกวีที่เป็นต้นกำเนิดของสำนักซอสามสายที่สำคัญในปัจจุบัน ซอสามสายในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์นั้น จะมีใช้อยู่แต่ในราชสำนักเท่านั้น หลังจากการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ. ๒๔๗๕ ซอสามสายจึงได้แพร่หลายสู่สามัญชน ซึ่งมีสำนักซอสามสายที่ค้นพบในปัจจุบันจานวน ๓ สำนัก ได้แก่
สำนักที่มีต้นกำเนิดจากราชสำนักคือ สำนักพระยาภูมีเสวิน (จิตร จิตตเสวี), สำนักที่มีต้นกำเนิดจากขุนนาง คือ สำนักครูเทวาประสิทธิ์ พาทยโกศล และสำนักที่เกิดขึ้นด้วยอัตลักษณ์ของคีตกวี คือ สำนักหลวงไพเราะเสียงซอ (อุ่น ดูรยชีวิน) ในปัจจุบันทั้งสามสำนักมีลูกศิษย์กระจายอยู่ตามสถาบันการศึกษาต่างๆ
๒. องค์ความรู้การบรรเลงเดี่ยวซอสามสายในสำนักพระยาภูมีเสวิน (จิตร จิตตเสวี) มีทั้งสิ้น ๑๕ บทเพลง ได้แก่ ขับไม้บัณเฑาะว์ ช้าลูกหลวง หกบท ต้นเพลงฉิ่ง นกขมิ้น บุหลันลอยเลื่อน บรรทมไพร ทะแย ปลาทอง พญาครวญ พญาโศก แสนเสนาะ เชิดนอก กราวใน ทยอยเดี่ยว นอกจากนี้ยังมีบทเพลงที่ศาสตราจารย์อุดม อรุณรัตน์ได้เรียบเรียงขึ้นอีกเป็นจำนวน ๙ เพลง ได้แก่ ปราสาทไหว มอญแปลง จระเข้หางยาว ตวงพระธาตุ เขมรปี่แก้วทางศักรวา พญารำพึง จันทราหู รามจิตติรำลึก เชิดนอก (เพิ่มเติมในช่วงเดี่ยวเพลงเชิด) ซึ่งบทเพลงต่างๆ ได้รับการสืบทอดจนถึงปัจจุบันอย่างครบถ้วน องค์ความรู้การบรรเลงเดี่ยวซอสามสายในสำนักครูเทวาประสิทธ์ พาทยโกศล มีทั้งสิ้น ๖ บทเพลง ได้แก่ กระบองกัณฑ์ แขกมอญ สุรินทราหู สุดสงวน เชิดนอก ทะแย ซึ่งปัจจุบันสูญหายไปแล้ว ๒ บทเพลงได้แก่ เพลงเชิดนอกและเพลงทะแย องค์ความรู้การบรรเลงเดี่ยวซอสามสายในสำนักหลวงไพเราะเสียงซอ (อุ่น ดูรยชีวิน) มีทั้งสิ้น ๑๓ บทเพลง ได้แก่ หกบท บุหลันลอยเลื่อน นกขมิ้น พญาโศก พญาครวญ พญารำพึง สารถี ทะแย แขกมอญ ต่อยรูป ลมพัดชายเขา ลาวแพน ทยอยเดี่ยว ปัจจุบันสูญหายไปแล้ว ๔ บทเพลงได้แก่ ต่อยรูป ลมพัดชายเขา ลาวแพน ทยอยเดี่ยว
๓. การบันทึกองค์ความรู้ การบรรเลงเดี่ยวซอสามสายที่มีสภาวะวิกฤตต่อการสูญหายในรูปแบบของ วีดีทัศน์และโน้ตเพลง ในสำนักพระยาภูมีเสวิน (จิตร จิตตเสวี) มีทั้งสิ้น ๖ เพลงได้แก่ พญาโศก บรรทมไพร แสนเสนาะ เชิดนอก กราวใน ทยอยเดี่ยว สำนักครูเทวาประสิทธิ์พาทยโกศล มีทั้งสิ้น ๓ เพลง ได้แก่ กระบองกัณฑ์ แขกมอญ สุรินทราหู และ สำนักหลวงไพเราะเสียงซอ (อุ่น ดูรยชีวิน) มีทั้งสิ้น ๗ บทเพลง ได้แก่ หกบท บุหลันลอยเลื่อน นกขมิ้น พญาโศก พญาครวญ สารถี ทะแย
บรรเลงเพลงพญาครวญ ทางพระยาภูมีเสวิน
บรรเลงเพลงพญาครวญ ทางหลวงไพเราะเสียงซอ ( อุ่น ดูริยชีวิน )