ชื่อผลงานทางวิชาการ             การจัดการการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ขององค์การบริหารส่วนตำบลบางน้ำผึ้ง จังหวัดสมุทรปราการ

ปีที่พิมพ์                                    2560

ข้อมูลเพิ่มเติม                           เคยได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารสารสนเทศสำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ปีที่ 16 ฉบับที่ 1 มกราคม – มิถุนายน 2560

ชื่อเจ้าของผลงานทางวิชาการ/ตำแหน่งทางวิชาการ  ดร. ศรัณย์ ฐิตารีย์ และ ดร. สุรศักดิ์ โตประสี  สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา

 

       บทความวิจัย เรื่อง “การจัดการการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ขององค์การบริหารส่วนตำบลบางน้ำผึ้ง จังหวัดสมุทรปราการ The  Eco-tourism Management of Bangnampheung Sub-district Administrative Organization in Samutprakarn Province ผู้วิจัย คือ     ดร. ศรัณย์ ฐิตารีย์     และ ดร. สุรศักดิ์ โตประสี สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับปัจจัยการจัดการและการจัดการของการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ขององค์การบริหารส่วนตำบลบางน้ำผึ้ง จังหวัดสมุทรปราการ 2) ศึกษาความสัมพันธ์ของปัจจัยการจัดการการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ขององค์การบริหารส่วนตำบลบางน้ำผึ้ง จังหวัดสมุทรปราการ กลุ่มตัวอย่างเป็นข้าราชการ พนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลบางน้ำผึ้ง กำนัน/ผู้ใหญ่บ้านและประชาชน จำนวน 393 คน ซึ่งปัจจัยด้านการควบคุม การจัดองค์การ การสั่งการและการวางแผนนั้น ถือเป็นปัจจัยหลักสำคัญและมีความสัมพันธ์กับการจัดการการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ขององค์การบริหารส่วนตำบลบางน้ำผึ้ง จังหวัดสมุทรปราการ

ประโยชน์ที่ได้รับจากงานวิจัยนี้  องค์การบริหารส่วนตำบลบางน้ำผึ้ง จังหวัดสมุทรปราการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สามารถนำปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ไปวางแผน และพัฒนา ด้านการท่องเที่ยวของชุมชน ให้คงอยู่และยั่งยืนต่อไป

 

การจัดการการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ขององค์การบริหารส่วนตำบลบางน้ำผึ้ง จังหวัดสมุทรปราการ

The  Eco-tourism Management of Bangnampheung Sub-district

Administrative Organization in Samutprakarn Province

                                                                                                                                                                       ศรัณย์ ฐิตรีย์*

                                                                                                             สุรศักดิ์ โตประสี**

 

บทคัดย่อ

  การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) ศึกษาระดับปัจจัยการจัดการและการจัดการการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ขององค์การบริหารส่วนตำบลบางน้ำผึ้ง จังหวัดสมุทรปราการและ 2) ศึกษาความสัมพันธ์ของปัจจัยการจัดการการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ขององค์การบริหารส่วนตำบลบางน้ำผึ้ง จังหวัดสมุทรปราการ กลุ่มตัวอย่างเป็นข้าราชการ พนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลบางน้ำผึ้ง กำนัน/ผู้ใหญ่บ้านและประชาชน จำนวน 393 คนเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถามชนิดมาตรประมาณค่า 5 ระดับชนิดตรวจสอบรายการ  สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานและสถิติถดถอยพหุ

ผลการวิจัย  พบว่า

  1)ปัจจัยการจัดการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ขององค์การบริหารส่วนตำบลบางน้ำผึ้ง จังหวัดสมุทรปราการ โดยภาพรวมเห็นด้วยอยู่ในระดับมากและการจัดการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ขององค์การบริหารส่วนตำบลบางน้ำผึ้ง จังหวัดสมุทรปราการโดยภาพรวมมีความสำเร็จอยู่ในระดับมาก

  2) ปัจจัยการจัดการท่องเที่ยว ด้านการควบคุม การจัดองค์การ การสั่งการและการวางแผนมีความสัมพันธ์กับการจัดการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ขององค์การบริหารส่วนตำบลบางน้ำผึ้ง จังหวัดสมุทรปราการ

            คำสำคัญ:  การจัดการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์

——————————————————————-

*       อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา

**      อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา

 

ABSRACT

   The purposes of this research were 1) to study the factors affecting the management and the management of eco-tourism of Bangnampheung Sub-district Administrative Organization in Samutprakarn Province and 2) to study the relation between the factors and the management of               eco-tourism. The sample included three hundred and ninety-three government officials, employees,  village heads and peoples. Data were collected using 5-point rating scale questionnaire and checklist and were statistically analyzed in percentage, mean, standard deviation, and multiple regression analysis.

            The findings revealed as follows.

  1. The factors affecting the management and the management of eco-tourism of Bangnampheung Sub-district Administrative Organization in Samutprakarn Province were generally found at the high level, and the achievement in management of eco-tourism was generally found at the high level.
  2. Controlling, Organizing, Directing, and Planning were related to the achievement in management of eco-tourism Bangnampheung Sub-district Administrative Organization in Samutprakarn Province.

 

Keyword: The Management of Eco-tourism

 

บทนำ

          อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมที่มีการขยายตัวสูง และมีบทบาทความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยเป็นอย่างมาก เป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญนำมาซึ่งเงินตราต่างประเทศ การสร้างงาน และการกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาค นอกจากนี้การท่องเที่ยวยังมีส่วนสำคัญในการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานของการคมนาคมขนส่ง รวมไปถึงการค้าและการลงทุน เมื่อประเทศประสบภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวมีบทบาทสำคัญในการสร้างรายได้ให้กับประเทศสามารถช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ในเวลาที่รวดเร็วกว่าภาคผลิตและบริการอื่น ๆ

            ในปัจจุบันอุตสาหกรรมท่องเที่ยวถือเป็นสาขาหนึ่งของการค้าบริการที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาประเทศ และพัฒนาเศรษฐกิจ เพราะนอกจากจะสร้างรายได้โดยมีมูลค่าเป็นอันดับหนึ่งของการค้าบริการรวมของประเทศแล้ว ยังเป็นอุตสาหกรรมที่ก่อให้เกิดการพัฒนา และการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องในด้านต่างๆ ทำให้เกิดการจ้างงาน และการกระจายรายได้ในภาคเศรษฐกิจ ทั้งนี้เนื่องจากรัฐบาลมีการส่งเสริม สนับสนุน และมีแผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ จึงทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย ทั้งนักท่องเที่ยวในประเทศ และนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งดูได้จากสถานการณ์ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา ตัวอย่างเช่น ในปี 2558 มีจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งสิ้น 15.93 ล้านคน อัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 12.63 และเมื่อเปรียบเทียบกับ ปี 2554 ก็พบว่า นักท่องเที่ยวมีจำนวนทั้งสิ้นถึง 19.23 ล้านคน ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.67 (การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย2540, น.5 ออนไลน์ 2559) ดังนั้น จึงคาดประมาณได้ว่า จำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2559 และในปีต่อ ๆ ไป ก็คงจะขยายตัว และเพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง            จะเห็นได้ว่า การเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ทำให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจ การสร้างงานสร้างอาชีพในภาคบริการและอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง พัฒนาระบบการคมนาคมขนส่ง รวมทั้งการพัฒนาโครงสร้างอื่น ๆ ทำให้เกิดการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นจนกลายเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ แต่ในขณะเดียวกันการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้ก่อให้เกิดผลกระทบในทางลบอย่างเลี่ยงไม่ได้ทั้งผลกระทบทางด้านกายภาพ เช่น ปัญหาความเสื่อมโทรมของแหล่งท่องเที่ยว ปัญหาขยะ ปัญหาการทำลายทัศนียภาพ ปัญหาน้ำเน่าเสีย ปัญหามลพิษทางทะเล ปัญหามลพิษทางอากาศ ปัญหาการบุกรุกพื้นที่สาธารณะประโยชน์ และเกิดผลกระทบทางด้านสังคม เช่น ปัญหาค่าครองชีพ การเปลี่ยนแปลงค่านิยมของคนในท้องถิ่น ปัญหาเพศพาณิชย์ ปัญหาอาชญากรรม ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ เช่น โรคเอดส์ รวมถึงผลกระทบทางด้านศิลปวัฒนธรรมที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมประเพณี ปัญหาความขัดแย้งในขนบธรรมเนียมประเพณีระหว่างคนในท้องถิ่นกับนักท่องเที่ยว (วันดี สีสังข์, 2549, น.1)

          การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เป็นการท่องเที่ยวธรรมชาติ และเป็นแนวคิดที่นำกิจกรรมการท่องเที่ยว และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมาประสานเข้าด้วยกัน ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยลดความขัดแย้งที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างกิจกรรมการท่องเที่ยวและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังทำให้กิจกรรมทั้งสองเกื้อกูลซึ่งกันและกันอีกด้วย นอกจากนั้นแล้วการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ยังเป็นการสร้างงานให้กับประชาชนในท้องถิ่นเพื่อเพิ่มรายได้ เมื่อประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้นจากกิจกรรมการท่องเที่ยวก็จะเป็นการช่วยลดความจำเป็นในการพึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติเพื่อการดำรงชีพ ด้วยเหตุผลดังกล่าว การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์จึงเป็นวิธีการหนึ่งที่จะทำให้การพัฒนาเศรษฐกิจการท่องเที่ยว และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมสามารถดำเนินควบคู่กันไปได้หรืออาจกล่าวได้ว่าการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เป็นรูปแบบหนึ่งของการพัฒนาอย่างยั่งยืน

         เนื่องจากการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เป็นการท่องเที่ยวธรรมชาติ ซึ่งทำให้เกิดผลกระทบโดยตรงต่อสิ่งแวดล้อม ในหลายกรณีพบว่าการท่องเที่ยวธรรมชาติได้ส่งผลทางลบต่อสิ่งแวดล้อมในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การทิ้งขยะมูลฝอย ความแออัด การสร้างมลพิษจากธุรกิจการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม ร้านอาหารหรือแม้กระทั่งการทำลายสิ่งแวดล้อมโดยน้ำมือของนักท่องเที่ยวเองด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ด้วยเหตุนี้เองจึงจำเป็นต้องมีการควบคุมดูแลกิจกรรมการท่องเที่ยว โดยป้องกันมิให้เกิดผลกระทบทางลบต่อสิ่งแวดล้อมเกินขีดความสามารถที่สภาพแวดล้อมจะรองรับได้ นอกจากจะช่วยควบคุมปริมาณนักท่องเที่ยวให้อยู่ในขอบเขตที่ต้องการแล้วยังจะเป็นเครื่องมือในการปันผลประโยชน์จากธุรกิจท่องเที่ยวสู่การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสู่มือประชาชนในท้องถิ่น ซึ่งเท่ากับเป็นการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นไปในตัวในท้ายสุดการที่ธุรกิจท่องเที่ยว การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการกระจายรายได้ สามารถดำเนินควบคู่กันไปได้อย่างสมดุลกัน จะเป็นกระบวนการที่จะนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน (นันทรัตน์ ทองมีเพชร, 2553, น.1-2)

          ดังนั้น การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์จึงเป็นการท่องเที่ยวที่มุ่งเน้นการศึกษาเป็นหลัก เป็นกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความเข้าใจในการทำงานของสภาพแวดล้อมว่ามีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกันอย่างไร ซึ่งเป็นฐานของวิถีชีวิตของมนุษย์ในแต่ละพื้นที่ และเมื่อมนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของสภาพแวดล้อมนั้น ๆ สภาพแวดล้อมจึงมีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ตลอดจนการเมืองในท้องถิ่นนั้น ๆ เช่นกัน แนวความคิดในการพัฒนาการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนจึงเป็นการพัฒนาเพื่อให้เกิดความยั่งยืนในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ สังคม และสภาพแวดล้อม

           ตำบลบางน้ำผึ้งตั้งอยู่ในอำเภอพระประแดง เป็นพื้นที่ราบลุ่มน้ำท่วมถึงริมแม่น้ำเจ้าพระยาทำให้บริเวณนี้ได้รับอิทธิพลจากน้ำทะเลช่วงเวลาที่น้ำทะเลหนุน ในเวลาที่น้ำผ่านเข้ามาในบริเวณลำคลองต่างๆ เข้าสู่พื้นที่ที่ชาวบ้านใช้ทำสวนเป็นส่วนใหญ่ ดินบริเวณตำบลบางน้ำผึ้งมีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยแร่ธาตุและสารอาหารของพืชนานาชนิด อาชีพดั้งเดิมของชาวตำบลบางน้ำผึ้งคืออาชีพทำสวนผลไม้ น้ำหวานจากเกสรดอกไม้นานาชนิดได้ดึงดูดให้ผึ้งมาอาศัยอยู่โดยทั่วไปในพื้นที่ ชาวบ้านได้นำน้ำผึ้งมาตักบาตรจนเป็นวิถีชีวิต กลายเป็นประเพณีวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น จึงได้ขนานนามพื้นที่นี้ว่า “บางน้ำผึ้ง” ชาวบ้านในตำบลบางน้ำผึ้งส่วนใหญ่เรียกตำบลบางน้ำผึ้งว่ากระเพาะหมู เพราะเมื่ออดีตน้ำท่วมนาน ตำบลต่างๆทั้ง 6 ตำบล ในอำเภอพระประแดงอยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา น้ำก็เลยไหลเข้ามาได้ทุกด้าน พอน้ำลดก็เลยเป็นแอ่งกระทะ จึงเรียกว่า “กระเพาะหมู” จึงทำให้โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์พิเศษเป็นของตน ซึ่งคนในสมัยนั้นนิยมปลูกข้าว จากประวัติศาสตร์ของชุมชน น่าจะมีอายุราวไม่ต่ำกว่า 200 กว่าปีที่แห่งนี้มีโฉนดที่ดินทุกแปลงดังปรากฏตามโฉนดที่ดินในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  ประกอบกับประวัติศาสตร์การสร้างเมืองศรีนครเขื่อนขันขันธ์หรืออำเภอพระประแดงในปัจจุบัน ชุมชนบางน้ำผึ้งน่าจะมีอายุราว 200 กว่าปี คนในชุมชนส่วนใหญ่เป็นคนไทยภาคกลาง และมอญและจีนบางส่วน ตำบลบางน้ำผึ้งมีทั้งหมด 11 หมู่บ้าน ประชาชนประกอบอาชีพทางการเกษตร  รับจ้างในโรงงานอุตสาหกรรม บริษัทเอกชน รับราชการและอื่นๆ และกระทรวงมหาดไทยได้ประกาศจัดตั้งองค์การบริหารส่วนตำบลบางน้ำผึ้ง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2539 ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา ฉบับประกาศทั่วไป  เล่มที่ 113 ตอนพิเศษ 52 ง ลงวันที่ 25 ธันวาคม 2539 อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของบางกะเจ้าหรือกระเพาะหมู ที่ถือเป็นพื้นที่สีเขียวที่ใหญ่ที่สุดและอยู่ใกล้กรุงเทพมหานครที่ได้รับการอนุรักษ์พื้นที่ไว้(มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2520)

          ตลาดน้ำบางน้ำผึ้งถือกำเนิดขึ้นเมื่อปี 2547 เป็นการร่วมมือระหว่างองค์การบริหารส่วนตำบลบางน้ำผึ้งและชาวบ้านในชุมชนเพื่อแก้ไขปัญหาผลผลิตการเกษตรล้นตลาด ซึ่งนับว่าได้ผลดีอย่างไม่น่าเชื่อ นอกจากตลาดน้ำแห่งนี้จะเป็นที่ระบายสินค้าเกษตรแล้วยังสามารถสร้างงานสร้างรายได้ให้กับชุมชนได้เป็นอย่างดี เอกลักษณ์เฉพาะตัวของตลาดน้ำแห่งนี้ คือ ผู้ขายเป็นคนในชุมชน มีการจำกัดจำนวนผู้ขายและสินค้าที่ต้องผลิตขึ้นเอง รายล้อมด้วยวิถีชีวิตชาวบ้านริมคลอง น้ำในคลองที่ยังใสสะอาด ชาวบ้านยังใช้เรือสัญจรไปมาเป็นปกติ ขนถ่ายพืชผลทางการเกษตร และค้าขาย เช่น ผลไม้ ขนมสด ก๋วยเตี๋ยว อาหารแปรรูปและของกินส่วนใหญ่ในตลาดเป็นฝีมือของชาวบ้านในพื้นที่ เช่น ไข่เค็มดินสอพอง ผลิตภัณฑ์จากทะเลอย่างกุ้งแห้ง กะปิ หอยดอง ขนมไทยนานาชนิด เช่น ทองหยอด เม็ดขนุน ฝอยทอง ลูกชุบ กะละแม ข้าวตู ขนมใส่ไส้ นอกจากนี้ก็มีผลไม้จากสวน ที่ขึ้นชื่อที่สุดของที่นี่ คือ มะม่วงน้ำดอกไม้ ส่วนของใช้และของที่ระลึก ได้แก่ ไม้ดอกไม้ประดับ สินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ เช่น ดอกไม้ประดิษฐ์ ดอกไม้เกล็ดปลา ธูปปั้นสมุนไพร ภาพประดิษฐ์จากรกมะพร้าว โมบาย ลูกตีนเป็ดประดิษฐ์รูปร่างแปลกตา สินค้าพื้นบ้านมอญ เป็นต้น (สถาบันการท่องเที่ยวโดยชุมชน พ.ศ. 2558)

            ในอดีตการท่องเที่ยวเริ่มต้นจากการเดินทางติดต่อสื่อสารเพื่อการค้าขายหรือการทำกิจกรรมเกี่ยวกับธุระต่าง ๆ ของผู้เดินทางจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง โดยจุดประสงค์ของนักเดินทางจะแตกต่างกันออกไป แต่ในปัจจุบันการท่องเที่ยวเป็นกิจกรรมที่มีจุดประสงค์เพียงอย่างเดียวคือ เพื่อพักผ่อนจากการทำงานหรือจากภารกิจที่ทำอยู่เป็นประจำทุกวัน จุดประสงค์ของการท่องเที่ยวในปัจจุบันอาจมีส่วนคล้ายหรือแตกต่างจากจุดประสงค์ของการท่องเที่ยวในอดีตบ้างเล็กน้อย ทั้งนี้อาจขึ้นอยู่กับกาลเวลาที่เป็นตัวกำหนดหรือเป็นปัจจัยหลักในการกำหนด ในปัจจุบันการท่องเที่ยวได้กลายเป็นธุรกิจที่ทำรายได้ให้กับเจ้าของพื้นที่จนกลายเป็นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่สามารถสร้างรายได้ให้แก่ประเทศที่มีทรัพยากรทางธรรมชาติ และทรัพยากรทางวัฒนธรรม ซึ่งถือเป็นสินค้าหรือเป็นจุดขายที่น่าสนใจสำหรับนักเดินทางที่ให้ความสนใจในกิจกรรมการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก (กษมา ประจง, 2546, น. 1)

 

วัตถุประสงค์ของการวิจัย

  1. เพื่อศึกษาระดับปัจจัยการจัดการและการจัดการการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ขององค์การบริหารส่วนตำบลบางน้ำผึ้ง จังหวัดสมุทรปราการ
  2. เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ของปัจจัยการจัดการการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ขององค์การบริหารส่วนตำบลบางน้ำผึ้ง จังหวัดสมุทรปราการ

 

วิธีการวิจัย

           เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย

               ผู้วิจัยได้สร้างเครื่องมือในการวิจัยเป็นแบบสอบถามที่ได้รับการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญได้ค่าความเที่ยงตรง(validity)เชิงเนื้อหา (IOC – index of congruence)ของแบบสอบถามทั้งฉบับเท่ากับ .66-1.00และหาค่าความเชื่อมั่น(reliability) ของแบบสอบถามทั้งฉบับโดยวิธีหาค่าสัมประสิทธิ์แอลฟา (α – coefficient) ของครอนบาค (Cronbach’s alpha coefficient) (อังคณา สายยศ, 2544 น. 6) ได้ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .890 โดยแบบสอบถามประกอบด้วย 2 ตอนลักษณะของคำถามเป็นแบบมาตรประมาณค่า(rating scale) ของ Likert จำนวน 5 ระดับ

           การเก็บรวบรวมข้อมูล

           ผู้วิจัยรวบรวมแบบสอบถามจำนวน 393 ชุด ระยะเวลาการเก็บข้อมูลตั้งแต่ พฤศจิกายน- ธันวาคม 2559 รวมระยะเวลา 2 เดือน

           สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล

                 ในการวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติเชิงพรรณนา (descriptive statistics)ในรูปความถี่( frequency )ค่าร้อยละ( percentage ) ค่าเฉลี่ย ( mean x̄  )และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน( standard  deviation  S.D. ) เพื่อใช้อธิบายลักษณะทั่วไปของกลุ่มตัวอย่างและตัวแปรอิสระและตัวแปรตามและทดสอบสมมติฐานด้วยการหาความสัมพันธ์ของตัวแปรอิสระกับตัวแปรตาม ด้วยแบบจำลอง (model of analysis) แบบความสัมพันธ์เชิงเส้น (linearity)การวิเคราะห์ถดถอยพหุ(multiple regression)

ผลการวิจัย

            1.ผลการวิเคราะห์ระดับปัจจัยการจัดการและการจัดการการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ขององค์การบริหารส่วนตำบลบางน้ำผึ้ง จังหวัดสมุทรปราการ แสดงดังตารางที่ 1 และ 2

ผลการวิจัย

            1.ผลการวิเคราะห์ระดับปัจจัยการจัดการและการจัดการการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ขององค์การบริหารส่วนตำบลบางน้ำผึ้ง จังหวัดสมุทรปราการ แสดงดังตารางที่ 1 และ 2

            จากตารางที่ 1  พบว่า ปัจจัยการจัดการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ขององค์การบริหารส่วนตำบลบางน้ำผึ้ง จังหวัดสมุทรปราการ โดยภาพรวมเห็นด้วยอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.80

 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ค่าเฉลี่ยสูงที่สุด คือ ด้านการควบคุมเห็นด้วยอยู่ในระดับมากค่าเฉลี่ยเท่ากับ คือ 3.94 รองลงมา คือ การวางแผน เห็นด้วยอยู่ในระดับมากค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.84 และค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด คือ การจัดองค์การ เห็นด้วยอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.69

          จากตารางที่ 2  พบว่า การจัดการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ขององค์การบริหารส่วนตำบลบางน้ำผึ้ง จังหวัดสมุทรปราการโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.61

เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ด้านประสิทธิภาพอยู่ในระดับมากค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.69 รองลงมา คือด้านประสิทธิผล อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ3.59 และค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด คือด้านประหยัด อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.57

            2.ผลการวิเคราะห์ตามสมมติฐาน

   ปัจจัยการจัดการ ได้แก่ การวางแผน การจัดองค์การ การสั่งการ การควบคุม มีความสัมพันธ์กับการจัดการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ขององค์การบริหารส่วนตำบลบางน้ำผึ้ง จังหวัดสมุทรปราการ  แสดงผลวิเคราะห์ตามตารางที่ 3

         จากตารางที่ 3 พบว่า ตัวแปรอิสระทั้ง 4 ตัว มีผลเชิงบวกต่อตัวแปรตามอย่างนัยสำคัญทางสถิติ เรียงตามค่าสัมประสิทธิ์ของการถดถอยจากมากไปหาน้อย คือ การควบคุม การจัดองค์การ การสั่งการและการวางแผนซึ่งตัวแปรอิสระทั้ง 4 ตัว สามารถอธิบายการเปลี่ยนแปลงของตัวแปรตาม คือ การจัดการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ขององค์การบริหารส่วนตำบลบางน้ำผึ้ง จังหวัดสมุทรปราการได้ถึงร้อยละ 68.70  แสดงว่ายังมีปัจจัยด้านอื่นที่ไม่ได้นำมาพิจารณาในครั้งนี้อีกร้อยละ 31.30  ที่มีผลต่อการจัดการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ขององค์การบริหารส่วนตำบลบางน้ำผึ้ง จังหวัดสมุทรปราการ และสมการที่ได้จากการวิเคราะห์ถดถอยพหุแบบขั้นตอน (stepwise) ที่มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .000 มีค่าผิดพลาดของการคาดประมาณด้วยสมการ (standard error of estimate) เกี่ยวกับการจัดการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ขององค์การบริหารส่วนตำบลบางน้ำผึ้ง จังหวัดสมุทรปราการเท่ากับ 8.334 

 

อภิปรายผล

           สมมติฐานที่ว่า ปัจจัยการจัดการด้านการวางแผน การจัดองค์การ การสั่งการ และการควบคุม มีความสัมพันธ์กับการจัดการการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ขององค์การบริหารส่วนตำบลบางน้ำผึ้ง จังหวัดสมุทรปราการอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ  ผลวิจัยพบว่าตัวแปรอิสระทั้ง 4 ตัว มีผลเชิงบวกต่อตัวแปรตามอย่างนัยสำคัญทางสถิติ เรียงตามค่าสัมประสิทธิ์ของการถดถอยจากมากไปหาน้อย คือ การควบคุม การจัดองค์การ การสั่งการและการวางแผนซึ่งสามารถอธิบายการเปลี่ยนแปลงของตัวแปรตาม คือ การจัดการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ขององค์การบริหารส่วนตำบลบางน้ำผึ้ง จังหวัดสมุทรปราการได้ถึงร้อยละ 68.70 สอดคล้องกับแนวคิดของศิริวรรณ  เสรีรัตน์ และคณะ( 2545, น.21-22)กล่าวว่ากระบวนการบริหารจัดการ ประกอบด้วย การวางแผน เป็นสิ่งที่องค์กรต้องการเปลี่ยนแปลงในอนาคต การวางแผนเป็นสะพานเชื่อมระหว่างเหตุการณ์ปัจจุบันและอนาคตซึ่งทำได้โดยการให้บรรลุเป้าหมายผลลัพธ์ที่ต้องการ การจัดการองค์กร เป็นการใช้ความพยายามทุกกรณีโดยการกำหนดงานและความสำคัญของอำนาจหน้าที่  การนำหรือการสั่งการ เป็นการใช้อิทธิพลเพื่อจูงใจพนักงานให้ปฏิบัติงานและนำไปสู่ความสำเร็จตามเป้าหมายที่ระบุไว้  การควบคุม เป็นการใช้ทรัพยากรต่าง ๆ ขององค์กรถือว่าเป็นกระบวนการตรวจสอบ หรือติดตามผลและประเมินการปฏิบัติงานในกิจกรรมต่าง ๆ และสอดคล้องกับผลงานวิจัยของของพุฒิตา  หวัดสนิท(2555)เรื่องการจัดการการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ขององค์การบริหารส่วนตำบลสะพลี : กรณีศึกษาหาดทุ่งวัวแล่น ตำบลสะพลี อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร ในประเด็นที่ว่าปัจจัยด้านการวางแผน และการควบคุม มีความสัมพันธ์กับการจัดการการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ขององค์การบริหารส่วนตำบลสะพลี : กรณีศึกษาหาดทุ่งวัวแล่น ตำบลสะพลี อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร

        ในประเด็นนี้สามารถอภิปรายได้ว่า  การควบคุม การจัดองค์การ การสั่งการและการวางแผนนั้น ถือเป็นปัจจัยหลักสำคัญของการจัดการการท่องเที่ยว เนื่องจากการดำเนินงานให้เกิดผลสำเร็จนั้น จะต้องขึ้นอยู่กับการปฏิบัติการให้เป็นไปตามนโยบายของแผนงานที่วางไว้ และมีการควบคุม การจัดองค์การ การสั่งการไปพร้อมกับการกำกับดูแลขั้นตอนการดำเนินงาน จึงจะเกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการจัดการการท่องเที่ยวอย่างสูงองค์การบริหารส่วนตำบลบางน้ำผึ้ง มีนโยบายในส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมของภาครัฐ ภาคประชาชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการบริหารจัดการทรัพยากรการท่องเที่ยว องค์การบริหารส่วนตำบลบางน้ำผึ้งมีการควบคุมคุณภาพโดยภาพรวมเพื่อให้มีการดำเนินงานที่สอดคล้องกับนโยบายของการวางแผนการจัดการ เน้นการควบคุมคุณภาพในองค์การเพื่อให้บุคลากรมีการปรับปรุงและพัฒนากระบวนการทำงานทุกด้านอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง รวมทั้งสามารถตอบสนองความต้องการของประชาชน นักท่องเที่ยว ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการเชื่อมโยงการดำเนินงานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันจึงจะทำให้สามารถทราบปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้

 

ข้อเสนอแนะเพื่อการประยุกต์ใช้        

         จากการศึกษาวิจัยในครั้งนี้สามารถนำเสนอข้อเสนอแนะเพื่อการประยุกต์ใช้ได้ดังนี้

  1. ด้านการควบคุม องค์การบริหารส่วนตำบลบางน้ำผึ้งควรมีการวิเคราะห์และประเมินผลการดำเนินงานตามตัวชี้วัดด้านการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ตามมาตรฐานที่กำหนดเพื่อให้กำดำเนินงานของแหล่งท่องเที่ยวได้ตามมาตรฐานที่ตั้งไว้
  2. 2. ด้านการจัดองค์การ องค์การบริหารส่วนตำบลบางน้ำผึ้งควรกำหนดโครงสร้างของหน่วยงานให้มีการแบ่งสายงานของบุคลากรด้านการท่องเที่ยวไว้อย่างชัดเจนเพื่อให้บริการแก่นักท่องเที่ยวและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้เกิดความยั่งยืนตลอดไปเพราะเป็นแหล่งรายได้สำคัญของประชาชนในชุมชน

            3.ด้านการสั่งการ องค์การบริหารส่วนตำบลบางน้ำผึ้งควรมีการออกกฎ ระเบียบข้อบังคับ ข้อห้ามปฏิบัติในการท่องเที่ยว และปิดประกาศให้นักท่องเที่ยวทราบและถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเพื่ออนุรักษ์แหล่งท่องเที่ยวให้ยั่งยืนและเกิดความสะอาด

            4.ด้านการวางแผน องค์การบริหารส่วนตำบลบางน้ำผึ้งควรมีการนำโครงการ/กิจกรรม ด้านการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์มาจัดทำข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีเพื่อนำงบประมาณมาพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้เกิดความความสวยงามดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเที่ยวตลอดทั้งปี

 

 บรรณานุกรม  

  

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(2540, น.5). สืบค้นจาก

            https://sites.google.com/site/tanapoomza/com/xngkh-prakxb-khxng-kar-thxng-

            theiyw-tourism-element เมื่อ 5 พฤศจิกายน 2559.

กษมา ประจง. (2546). ผลกระทบของการท่องเที่ยวต่อชุมชน:กรณีศึกษาชุมชนบ้านศรีฐาน ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย.

นันทรัตน์  ทองมีเพชร. (2553). แนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ กรณีศึกษาชุมชนลีเล็ด   ตำบลลีเล็ด อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี. ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชา           การจัดการโรงแรมและการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยนเรศวร.

พุฒิตา  หวัดสนิท. (2555). การจัดการการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ขององค์การบริหารส่วนตำบลสะพลี : กรณีศึกษาหาดทุ่งวัวแล่น ตำบลสะพลี อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร. สารนิพนธ์

รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต  สาขาวิชานโยบายสาธารณะ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา.

มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2520 การอนุรักษ์พื้นที่บางกระเจ้าเป็นพื้นที่สีเขียวที่ใหญ่ที่สุดและอยู่ใกล้กรุงเทพมหานคร.

วันดี  สีสังข์. (2549). แนวทางเพื่อการวางแผนพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อย่างยั่งยืนของจังหวัด กาญจนบุรี. ปริญญาการศึกษาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการวางแผนและการจัดการ การท่องเที่ยวเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

ศิริวรรณ เสรีรัตน์และคณะ. (2545). องค์การและการจัดการ. กรุงเทพฯ: ธรรมสาร.