อัญชันสมุนไพรหลายประโยชน์กับความหลากหลายทางชีวภาพ

ผศ.วิชัย ปทุมชาติพัฒน์


ความนำ

น้อยคนที่จะไม่รู้จัก“อัญชัน”เพราะอัญชันขึ้นอยู่ทั่วไปทุกหนทุกแห่งเพราะขยายพันธุ์ง่าย ติดฝักง่าย มีเมล็ดที่สมบูรณ์จำนวนมาก จึงสามารถพบได้ทั้งริมรั้วบ้าน ในสวนหย่อม สวนสาธารณะ ที่รกร้างว่างเปล่า  ในสวนสมุนไพรทุกแห่ง และ แม้กระทั่งในป่า ซึ่งอาจพบว่ามีลักษณะดอกที่แตกต่างกันทั้งรูปแบบและสีสัน ทั้งนี้เพราะอัญชันเป็นพืชปลูกง่ายผสมข้ามได้ง่ายทำให้เกิดความหลากหลายทางชีวภาพ ที่สำคัญคือมีสรรพคุณเป็นสมุนไพร และเป็นอาหารได้หลายรูปแบบ  บทความนี้จะให้รายละเอียดทั้งสองด้าน

อัญชัน

ชื่อสามัญ     Blue Pea , Butterfly Pea

ชื่ออื่นๆ    แดงชัน  อัญชัน  เอื้องชัน อังจัน

ชื่อวิทยาศาสตร์     Clitoria ternatea L.

ชื่อวงศ์    LEGUMINOSAE – PAPILIONIOIDEAE

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์  

   ไม้ล้มลุกเลื้อยพัน ยาวได้ถึง 5 เมตร ใบประกอบแบบขนนกปลายคี่(odd pinnate leaf) เรียงสลับ ใบย่อย 5-7 ใบ ใบย่อยรูปไข่ปลายมน กว้าง 2-3.5 ซม. ยาว 3.5-5.5 ซม. ดอกเดี่ยว ออกที่ซอกใบ กลีบดอกรูปดอกถั่ว สีน้ำเงิน ม่วงหรือขาว ก้านดอกมีใบเกล็ดขนาด 6 มม. จำนวน 2 อันประกบที่ฐานนดอก โคนกลีบและหลังกลีบจะเป็นสีขาวหรือสีขาวหม่น มีทั้งชนิดกลีบดอกซ้อนและกลีบดอกชั้นเดียว(ดอกลา) ชนิดดอกซ้อนจะมี 5 กลีบขนาดใกล้เคียงกัน เบียดกันแน่นเป็นดอกสวยงาม ชนิดดอกลามี 1 กลีบใหญ่ และ 2 กลีบเล็กประกบกันอยู่ตรงกลางดอก  ผลเป็นฝักแบน  รูปดาบ โค้งเล็กน้อย ปลายเป็นจะงอย  กว้าง 1 ซม. ยาว 7-9 ซม. เมื่อแก่เป็นสีฟางแห้ง แห้งแล้วไม่แตก  เมล็ดรูปไต จำนวน 5-7 เมล็ดต่อฝัก

การขยายพันธุ์ ขยายพันธุ์ง่ายด้วยเมล็ด แต่อาจกลายพันธุ์ หากเปลี่ยนมาปักชำด้วยลำต้นเก่าขนาดหลอดดูดน้ำอัดลมก็จะได้พันธุ์เดิม

ประโยชน์ของอัญชัน มีหลายด้าน ดังนี้

1. เป็นสีแต่งอาหารดอกสีน้ำเงินใช้เป็นสีแต่งอาหารและขนมตามต้องการ มักนิยมใช้แต่งสีน้ำเงินของขนมช่อม่วง ขนมเรไร ขนมน้ำดอกไม้ ข้าวเหนียวสังขยา

2. เป็นอาหาร เช่น ดอกสดของอัญชันในจานสลัด   ดอกอัญชันชุบแป้งทอด ต้มน้ำเป็นเครืองดื่มสีสวย

3. เป็นสมุนไพร ดอกอัญชันสีน้ำเงินมีสารแอนโธไซยานิน (Anthocyanin) มีฤทธิ์ต้านเซลล์มะเร็ง ต้านสารอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ต้านเชื้อไวรัส และแบคทีเรีย ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ทำให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆได้ดีมากขึ้น  เมล็ดเป็นยาระบาย รากช่วยบำรุงตาแก้ตาฟาง ถูฟันแก้ปวดฟัน ตาแฉะ และปรุงเป็นยาขับปัสสาวะ นำรากมาถูกับหินผสมกับน้ำฝนใช้หยอดหูและหยอดตา โดยเฉพาะส่วนดอก เป็นต้น

4. เป็นเครื่องสำอาง มีแชมพูสระผมดอกอัญชันวางขายในตลาดหลายตรา โดยระบุว่าผมจะดกดำไว้ในสลาก ในสมัยก่อนหญิงสาวมักนำดอกอัญชันมาเขียนคิ้วให้ดำขลับ ซึ่งมีหลักฐานในนิราศธารโศก และมหาชาติคำหลวง ปัจจุบันก็นิยมนำดอกอัญชันชนิดสีน้ำเงินมาขยำทาคิ้วทารกเพื่อให้คิ้วดกดำและมีรูปร่างตามที่ได้นำก้านพลูมาร่างแบบไว้ก่อนทา

5. เป็นอุปกรณ์การเรียนในห้องเรียนวิทยาศาสตร์ โดยใช้กลีบดอกอัญชันสดมาตำให้แหลกแล้วเติมน้ำเล็กน้อย กรองด้วยผ้าขาวบาง บีบคั้นเอาน้ำออกมา จะได้น้ำสีน้ำเงินซึ่งเป็นสาร Anthocyanin ใช้เป็นตัวทดสอบความเป็นกรด( indicator) แทนกระดาษลิตมัส(lithmus) ถ้าเติมน้ำมะนาว หรือก้นมดแดงซึ่งมีฟอร์มิคแอสิดลงไปเล็กน้อย น้ำสกัดนั้นจะกลายเป็นสีม่วง

6. เป็นพืชทดลองการผสมพันธุ์พืช  อัญชันเป็นพืชที่ผสมเกสรได้ง่าย และมีอายุให้ดอกเร็ว เหมาะสำหรับนำมาผสมข้ามหาลูกผสมประกอบการเรียน

7. ปลูกเป็นไม้ประดับ ด้วยอัญชันมีดอกที่สวยงามหลายสี ปลูกง่ายออกดอกเร็วและออกดอกทั้งปี

ความหลากหลายทางชีวภาพของอัญชัน

เนื่องจากอัญชันเป็นพืชที่ผสมข้ามกันตามธรรมชาติได้ง่าย  ทำให้เกิดความหลากหลายของรูปร่างและสีของดอกปรากฏให้เห็นหลายแบบ พอสรุปได้ดังนี้

1. สีน้ำเงิน ชนิดกลีบดอกชั้นเดียว  พบว่าความเข้มของสีดอกมีหลายระดับ

2. สีน้ำเงิน ชนิดกลีบดอกซ้อน

3. สีม่วง ชนิดกลีบดอกชั้นเดียว  พบว่าความเข้มของสีดอกมีหลายระดับ

4. สีม่วง ชนิดกลีบดอกซ้อน

5. สีขาว ชนิดกลีบดอกชั้นเดียว

6. สีขาวชนิดกลีบดอกซ้อน

ขอขอบคุณ    โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.) และ วิกิพีเดีย