ชื่อเรื่อง         การพัฒนารูปแบบการสอนโดยใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเอง และทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือ  เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2

ชื่อผู้วิจัย         ธนชัย  ใจสา

สาขาวิชา        หลักสูตรและการสอน

ปีการศึกษา     2555

สาระโดยย่อ

   การวิจัยเรื่องนี้เป็นการวิจัยและพัฒนามีวัตถุประสงค์การวิจัย 1) เพื่อพัฒนารูปแบบการสอนโดยใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเองและทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 และ  2) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ก่อนและหลังการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนที่พัฒนาขึ้น การดำเนินการวิจัยแบ่งเป็น

3 ขั้นตอน คือ

ขั้นตอนที่ 1   การพัฒนารูปแบบการสอน   ดำเนินการดังนี้  1.1)  ศึกษาข้อมูลพื้นฐาน ได้แก่  ลักษณะของผู้เรียนที่ต้องการให้เกิดตามหลักสูตร  สภาพการจัดการเรียนการสอน  ผลการเรียนของผู้เรียน แนวคิด ทฤษฎีการพัฒนารูปแบบการสอน ปรัชญาพิพัฒนนิยม  หลักจิตวิทยา  พัฒนาการทางสติปัญญาของบรุนเนอร์ ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเอง ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือ รูปแบบการสอนโดยใช้ปัญหาเป็นฐาน  กระบวนการในการแก้ปัญหา  และหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551  จากนั้นนำมากำหนดเป็นองค์ประกอบ  1.2)  นำข้อมูลพื้นฐานที่ศึกษาในขั้น 1.1   มาสร้างรูปแบบการสอนโดยใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเอง และทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือ  เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2  และให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบความเหมาะสมของรูปแบบการสอน

ขั้นตอนที่ 2   การพัฒนาเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย  ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 5   แผน  แบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้ปัญหา  นำแผนการจัดการเรียนรู้ให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบความเหมาะสม และความสอดคล้อง  ส่วนแบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้ปัญหา  ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบความเที่ยงตรง  หลังจากนี้หาคุณภาพของแบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้ปัญหา  โดยการหาค่าความยากง่าย   ค่าอำนาจจำแนก และค่าความเชื่อมั่น

ขั้นตอนที่ 3  การทดลองใช้รูปแบบการสอน กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนวัดทองเพลง เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554 จำนวน 24 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ และแบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้ปัญหา   สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าเฉลี่ย   ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติที (t-test )

ผลการวิจัย

1).  รูปแบบการสอนโดยใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเองและทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ประกอบด้วย 4  องค์ประกอบ ได้แก่

1) หลักการ/แนวคิดของรูปแบบการสอน  รูปแบบการสอนเพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาที่ได้พัฒนาขึ้น มุ่งให้ผู้เรียนได้แก้ปัญหาจริงตามขั้นตอนจากการกำหนดปัญหา รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลหรือการทดลอง และการสรุป  ให้โอกาสผู้เรียนได้ฝึกคิดหาวิธีการแก้ปัญหาด้วยตนเอง โดยจัดสถานการณ์หรือปัญหา  ผ่านการทำงานกลุ่มร่วมกัน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการหาแนวทางในการแก้ปัญหา

2) วัตถุประสงค์ของรูปแบบการสอน มุ่งพัฒนาให้ผู้เรียนมีความสามารถในการแก้ปัญหา  4 ทักษะ

(1) การระบุปัญหา 

(2) การระบุสาเหตุของปัญหา 

(3) การระบุผลกระทบของปัญหา 

(4) การระบุแนวทางและผลที่ได้จากการแก้ปัญหา

3) กระบวนการเรียนการสอน ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน  ดังนี้

ขั้นที่  1  เตรียมและทำความรู้จักกับปัญหา

ขั้นที่  2  จุดประกายความคิด  

ขั้นที่  3  ขั้นปฏิบัติการ 

ขั้นที่  4 ขั้นสะท้อนความคิด

ขั้นที่ 5 ขั้นประเมินและประยุกต์ความรู้

4) ผลที่ผู้เรียนจะได้รับจากการเรียนการสอนตามรูปแบบการสอน  คือผู้เรียนมีความสามารถในการแก้ปัญหา  4 ทักษะ ได้แก่ การระบุปัญหา  การระบุสาเหตุของปัญหา  การระบุผลกระทบของปัญหา  และการระบุแนวทางและผลที่ได้จากการแก้ปัญหา 

2.  ผลการเปรียบเทียบความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 หลังการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการสอนโดยใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเองและทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือ สูงกว่าก่อนการเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

คำสำคัญ:  ความสามารถในการแก้ปัญหา การสร้างความรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้แบบร่วมมือ